รถไฟจีนเหนือกฎหมาย

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

รถไฟจีน 100% วิศวกรจีน 100% สถาปนิกจีน 100% เผลอๆ เหล็กจีน 100% คนงานจีน 100% แต่ไทยลงทุน 100% แถมยังมีข่าวว่าจีนต้องการสิทธิประโยชน์ที่ดินสองข้างทาง

ก็อย่างที่เสื้อแดงขำกลิ้ง ถ้าเป็นยิ่งลักษณ์ทักษิณ โดนข้อหา “ขายชาติ” ไปแล้ว แต่นี่เพราะลุงตู่รักชาติจนน้ำตาไหล และมี ม.44 จึงไม่มีใครว่าอะไร สื่อไทยก็หันไปสนใจข่าวจับมือระเบิดได้พร้อมนาฬิกาทักษิณเสียมากกว่า

อ้อๆ ข่าวคุณภาพชีวิตก็สนใจนะ แต่เป็นข่าวไฟไหม้ Gren Fell Tower ที่อังกฤษ รุมจวกการใช้วัสดุมักง่าย ทำคนตายมากมาย ส่วนรถไฟจีน มั่นใจไม่ตกรางแน่นอน

จีนไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน นอกจากรถถังจีน 7 พันล้าน เรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล้าน รถหุ้มเกราะล้อยาง 2.3 พันล้าน รัฐบาลยังปักใจแน่วแน่กับรถไฟจีน ขนาดยอมทำสัญญาแช่แป้ง 3.5 กม. ต่อด้วย ม.44 เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-โคราช

ทั้งที่เงินลงทุนเป็นของไทยทั้งหมด 5 พันล้านดอลลาร์ จีนไม่ช่วยสักบาท เป็นแค่ผู้รับจ้าง แต่เรียกร้องได้แทบทุกอย่าง

ต่างกันสิ้นเชิงกับรถไฟความเร็วสูงสาย จาการ์ตา–บันดุง มูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ ของอินโดนีเซีย ซึ่งใช้บริษัทร่วมทุน การรถไฟจีนถือหุ้นใหญ่ ลงขันกับรัฐวิสาหกิจอินโดฯ สี่แห่ง ธนาคารจีนปล่อยกู้ 75% ด้วยเงื่อนไขอย่างนี้ จีนจึงชนะญี่ปุ่นในการประมูล

นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก จึงชี้ว่าไม่น่าเจรจาตรงกับรัฐบาลจีนมาแต่ต้น ทางที่ดีต้องเปิดกว้างให้ประมูลแข่งขัน

ที่น่าสนใจคือ คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 30/2560 ไม่เพียงให้วิศวกรจีน สถาปนิกจีน เข้ามาทำงานโดยไม่ต้องอยู่ในบังคับกฎหมายไทย คำสั่งข้อ 3 ยังยกเว้นให้การรถไฟฯ ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบว่าด้วยความโปร่งใสอีก 7 ข้อ

เช่น กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ, กฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ, คําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 11/2560 เรื่อง การกำกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ, ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 ระเบียบการรถไฟว่าด้วยการจ้าง และว่าด้วยวัสดุ เป็นต้น

สอดรับกับข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกลัวติดคุก เพราะโครงการนี้เสี่ยงขัดระเบียบและกฎหมายหลายประเด็น จนต้องใช้ ม.44 ยกเว้น ให้โครงการนี้อยู่เหนือกฎหมาย

เรื่องตลกคือ คำสั่งลุงตู่ฉบับนี้ ยังยกเว้นคำสั่งลุงตู่เองฉบับที่ 11 ซึ่งถ้าจำกันได้ หลังมีคำสั่งฉบับที่ 10 ปลดบอร์ดและผู้ว่าการรถไฟ ก็มีฉบับที่ 11 การกำกับการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานของรัฐ ตั้ง “ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง” มีประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน เข้ามาดูแลรถไฟรางคู่ 7 เส้นทาง กระทั่งสั่งรื้อ TOR ใหม่ 5 เส้นทาง

ยังจำได้ไหม ตอนนั้น ประชาชนสรรเสริญลุงตู่กว้างขวาง บอร์ดและผู้ว่าฯ ท่านก็ตั้งมาเองกับมือ ยังโดนปลดเพราะถูกครหา แถมวางมาตรการล้อมคอกทุจริตแข็งขัน

แต่ตอนนี้ เพื่อให้รถไฟจีนสำเร็จ ท่านยอมยกเว้นกฎหมายระเบียบทุกอย่าง แม้แต่คำสั่งของตัวเอง

กระนั้น เพราะลุงตู่รักชาติและมี ม.44 จึงไม่มีใครกล้าขวาง นายกสภาสถาปนิก ตัดพ้อยืดยาว ก็ยังลงท้ายว่ารัฐบาลคงมองประโยชน์ที่ประชาชนทั้งประเทศจะได้รับ ฉะนั้น ทุกคนก็ต้องเชื่อว่าแม้ยกเว้นมาตรการโปร่งใส โครงการนี้ก็ยังโปร่งใส แม้ไม่ทำตามหลักธรรมาภิบาล รัฐบาลนี้ก็ยังมีธรรมาภิบาล