มุมเดิม
*หลังจากคุยเรื่องหนักๆ กันมาทั้งสัปดาห์ ก็ถึงเวลาที่ “โมนิก้า” ต้องกลับมาพูดคุยเรื่องหลักการลงทุน เพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการซื้อขายหุ้น หลังเห็นดัชนีวิ่งขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,580 จุดอีกครั้ง ซึ่งตามตำราที่เล่าเรียนมาพูดถึงการเคลื่อนตัวในลักษณะนี้ไว้ว่า หากดัชนีเทกตัวแล้ววิ่งผ่านฉลุย เท่ากับเป็นการสร้างฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นจังหวะของการตามไปดูนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หลังจากคุยเรื่องหนักๆ กันมาทั้งสัปดาห์ ก็ถึงเวลาที่ “โมนิก้า” ต้องกลับมาพูดคุยเรื่องหลักการลงทุน เพื่อใช้เป็นแนวทางประกอบการซื้อขายหุ้น หลังเห็นดัชนีวิ่งขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,580 จุดอีกครั้ง ซึ่งตามตำราที่เล่าเรียนมาพูดถึงการเคลื่อนตัวในลักษณะนี้ไว้ว่า หากดัชนีเทกตัวแล้ววิ่งผ่านฉลุย เท่ากับเป็นการสร้างฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นจังหวะของการตามไปดูนะคะ
*ในทางกลับกัน หากดัชนีเกิดหมดแรงข้าวต้มดื้อๆ ก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า การเล่นเที่ยวนี้ยังเป็นลักษณะเข้าทำสั้นๆ ไม่มีอะไรต้องคิดมากให้ปวดสมอง เพราะแพทเทิร์นของดัชนีจะเข้าในลักษณะ W-Shape ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เคยเห็นกันมาแล้วตั้งแต่ต้นปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รอบเล่นจะจบตรงบริเวณนี้ “โมนิก้า” ถึงต้องการให้นักเล่นเริ่มสำรวจทางหนีทีไล่ตั้งแต่เนิ่นๆ พะยะค่ะ
*ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่พูดกันมาหลายรอบ เที่ยวนี้ก็ยังต้องพูดกันต่อไปเรื่อยๆ เพราะกรอบใหญ่ของการเคลื่อนตัวในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมายังอยู่บริเวณ 1,530-1,600 จุด บวกลบประมาณ 10 จุด และการที่ดัชนีมีอาการตื้อๆ ตันๆ ก่อนจะปิดที่ระดับ 1,576.58 จุด บวกไป 3.05 จุด ด้วยมูลค่า 4.12 หมื่นล้านบาท ย่อมตีความได้ทันทีว่า กำลังมีความพยายามดันหุ้นเพื่อทำตัวเลขสวยๆ นะจะบอกให้
*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” มีความเชื่อเช่นนั้นมาจากแพทเทิร์นการเคลื่อนตัวของดัชนี มักทะยานขึ้นแรงในช่วงปลายไตรมาสเป็นประจำ จึงต้องจับตาดูต่อไปว่า สัปดาห์นี้จะมีการเคาะขวาเพื่อเลี้ยงกระแสได้นานแค่ไหน เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้มันไม่แตกต่างจากที่ผ่านมาสักเท่าไหร่ แถมข้อมูลที่พรายกระซิบเดินมาบอกก็เป็นเรื่องเดิมๆ มันไม่มีอะไรตื่นเต้นเลยสักอย่างเจ้าค่ะ
*ยกเว้นในรายของ EA ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายขึ้นมาทำ new high ที่บริเวณ 33.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่า 685 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตเด้งรับข่าวดีที่ต้องปรบมือรัวๆ ก็ในเมื่อเขาทำได้ตามสัญญาที่ให้ไว้กับมหาชน ทุกคนก็เลยเชื่อมั่นในตัวบริษัทมากขึ้น ส่วนประเด็นที่ว่า หุ้นจะไปต่อไหม? อันนี้ต้องติดตามดูกันเอาเองนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ CK หุ้นเด้งขึ้นมาปิดราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 29.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 960 ล้านบาท พ่วงด้วยการทะยานขึ้นแรงเป็นวันแรก ย่อมเป็นช็อตที่ทำให้แฟนคลับต้องตามไปดูโดยไม่มีข้อแม้ โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นกับความเสียวเป็นชีวิตจิตใจ นี่เป็นโอกาสดีสำหรับการเข้าไปตะลุมบอน จริงเท็จอย่างไร? วันนี้เดี๋ยวได้รู้กันจ้า
*เหมือนกับการทะยานขึ้นของ UNIQ ก่อนจะมาลงเอยที่ระดับ 18.90 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่า 525 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นช็อตต่อเนื่องที่นักเล่นทุกรายพร้อมกระโจนเข้าใส่ เพราะของมันเคยเห็นกันมาแล้วว่า ยอดเดิมอยู่ที่บริเวณ 20 บาท รอบนี้ก็น่าจะเป็นเหมือนเดิม บวกกับโปรเจ็กต์ก่อสร้างต่างๆ ก็เข้าทางปืนพอดี จึงกลายเป็นดาวเด่นที่กองทุนถวิลหานะคะ
*เม้าท์ถึงเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องมองย้อนกลับมาที่ UV เพราะมีลักษณะ “มาเร็ว เคลมเร็ว” เที่ยวก่อนพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 9.50 บาทปุ๊บ โดนเทขายหนักหน่วงจนร่วงลงมาแถว 7 บาทปั๊บ ต่อจากนั้นก็แกว่งตัวไปมาในกรอบแคบๆ ก่อนจะเริ่มไต่ระดับขึ้นมาอีกรอบ จนล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 9.10 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5.20 บาท ด้วยมูลค่า 440 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่แมงเม่าต้องวางแผนแล้วนะจ๊ะ
*ช็อตดังกล่าวคล้ายคลึงกับการไล่ราคาหุ้น ECL ขึ้นมาปิดที่ 3.50 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 9.40% ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท มันเป็นเกมหุ้นที่สร้างความบันเทิงเริงใจให้กับผู้เล่นก็จริง แต่อย่าลืมว่า เที่ยวก่อนก็ปั่นกระแสกันขึ้นมาแบบนี้ สุดท้ายผลงานก็ไม่เป็นเหมือนกับที่โม้ไว้เยอะ หุ้นถึงไหลลงอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แมงเม่าเคาะสั้นๆ อย่าหวังสูงเจ้าค่ะ
*ผิดกับในรายของ GIFT ราคาหุ้นแกว่งตัวฉวัดเฉวียนก็จริง แต่โพสิชั่นของหุ้นยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น “โมนิก้า” ถึงชอบพูดถึงเป็นประจำเมื่อหุ้นเริ่มขยับ ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.45 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่า 85 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูอย่างไม่มีข้อแม้ แถมวันสัมมนาที่ผ่านมาได้เผยเคล็บลับการเติบโตแบบยั่งยืนให้ทุกคนได้เห็นแบบนี้ พลาดแล้วจะเสียใจนะคะ
*อีกหนึ่งรายที่ต้องเกาะติดให้ดีก็คือ CHO หลังพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.92 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่า 50 ล้านบาท มันสะท้อนถึงช่วงตกต่ำของธุรกิจผ่านพ้นไปแล้ว หลังจากนี้จะพบกับแสงสว่างสุกสดใส แถมเมื่อมองไปข้างหน้าจะเห็นว่า ในอนาคตยังมีโปรเจ็กต์ที่เห็นน้ำเห็นเนื้ออีกหลายโครงการด้วยกัน วันนี้ถึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า “เทิร์นอะราวด์” แล้วนะจ๊ะ