BCPคาดกำไร1Q58 กลับสู่ระดับปกติมองกำไรปี58โตโดดเด่น589%แนะซื้อ
บล.กรุงศรีระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.) ว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ BCPคาดการณ์ผลประกอบการ ไตรมาส1/58 มีกำไรสุทธิ 1.55 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 2.49 พันล้านบาท ใน ไตรมาส4/57 และทรงตัวเทียบกับ ไตรมาส1/57 ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากการขยายตัวขึ้นของปริมาณกลั่นน้ำมันและค่าการกลั่นพื้นฐาน รวมถึงผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันลดลงและไม่มีการบันทึกค่าเผื่อด้อยค่าโครงการลงทุนในธุรกิจสำรวจผลิตปิโตรเลียม บล.กรุงศรีระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.) ว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ BCPคาดการณ์ผลประกอบการ ไตรมาส1/58 มีกำไรสุทธิ 1.55 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 2.49 พันล้านบาท ใน ไตรมาส4/57 และทรงตัวเทียบกับ ไตรมาส1/57 ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากการขยายตัวขึ้นของปริมาณกลั่นน้ำมันและค่าการกลั่นพื้นฐาน รวมถึงผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันลดลงและไม่มีการบันทึกค่าเผื่อด้อยค่าโครงการลงทุนในธุรกิจสำรวจผลิตปิโตรเลียม
บล.กรุงศรีระบุในบทวิเคราะห์ (23 เม.ย.) ว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ BCPคาดการณ์ผลประกอบการ ไตรมาส1/58 มีกำไรสุทธิ 1.55 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 2.49 พันล้านบาท ใน ไตรมาส4/57 และทรงตัวเทียบกับ ไตรมาส1/57 ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เทียบไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากการขยายตัวขึ้นของปริมาณกลั่นน้ำมันและค่าการกลั่นพื้นฐาน รวมถึงผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันลดลงและไม่มีการบันทึกค่าเผื่อด้อยค่าโครงการลงทุนในธุรกิจสำรวจผลิตปิโตรเลียม
คาดปริมาณกลั่นน้ำมัน ไตรมาส1/58 ขยายตัวสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 108.6 พันบาร์เรล/วัน (+6% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) คิดเป็น 91% ของกำลังการกลั่นรวม ผลจากประสิทธิภาพการกลั่นเพิ่มขึ้นเต็มที่หลังซ่อมบำรุงใน ไตรมาส2/57 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ คาดว่าค่าการกลั่นพื้นฐานขยายตัวขึ้นเป็น US$10.5/บาร์เรล (+24% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +64% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ตามต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบลดลง เราคาดว่าบริษัทมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (รวมกลับรายการค่าเผื่อผลขาดทุนสต๊อกสินค้า) จำนวน US$2.5/บาร์เรล ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก ไตรมาส4/57 ที่ขาดทุน US$14.2/บาร์เรล แต่แย่กว่า ไตรมาส1/57 ที่กำไร US$0.2/บาร์เรล คาดมีผลขาดทุนจากการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงเล็กน้อย US$0.5/บาร์เรล เทียบกับกำไร US$0.5/บาร์เรล ใน ไตรมาส4/57 และกำไร US$0.3/บาร์เรล ใน ไตรมาส1/57
คาดธุรกิจจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการมีปริมาณขายเพิ่มเป็น 450 ล้านลิตร/เดือน (+1% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และมีอัตรากำไร 0.80 บาท/ลิตร (+19% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ด้วยแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามราคาขายที่ลดลงและการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในประเทศ สำหรับธุรกิจอื่นๆ คาดว่าทรงตัว โดยธุรกิจโซลาร์ฟาร์มมีกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่เปลี่ยนแปลงที่ 118 เมกะวัตต์ เช่นเดียวกับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีระดับการผลิตเท่ากับ 2.4 พันบาร์เรล/วัน แต่ไม่มีการตั้งค่าใช้จ่ายสำรองค่าเผื่อการด้อยค่าของโครงการเพิ่มเติม
คาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโตโดดเด่น 589% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 4.9 พันล้านบาท ด้วยแรงหนุนจาก (1) ปริมาณการกลั่นน้ำมันขยายตัวสู่ 102 พันบาร์เรล/วัน เนื่องจากไม่มีแผนการปิดซ่อมบำรุง เพิ่มขึ้น 18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก 86.5/บาร์เรล ในปี 57 (2) ไม่มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน เทียบกับขาดทุน US$5.3/บาร์เรล ในปี 57 และ (3) รับรู้ผลประกอบการโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 3 เฟส รวม 118 เมกะวัตต์ เต็มทั้งปี อย่างไรก็ดี คาดว่าค่าการกลั่นพื้นฐานอ่อนตัวเล็กน้อยเหลือ US$6.5/บาร์เรล (-7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เนื่องจากอุปทานใหม่สุทธิราว 8 แสนบาร์เรล/วัน จากประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน
ประเมินมูลค่าพื้นฐาน 39 บาท (Sum-of-the-parts) โดยมองว่าแผนการเติบโตมีความน่าสนใจ ทั้งในส่วนของธุรกิจโซลาร์ฟาร์มที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 118 เมกะวัตต์ เป็น 250 เมกะวัตต์ ล่าสุดเข้าสู่ธุรกิจโซลาร์ฟาร์มประเทศญี่ปุ่นขนาด 60 เมกะวัตต์ (ถือหุ้น 70%) เริ่มผลิตไฟฟ้าไตรมาส 2/60 พร้อมกับมีแผนเพิ่มอีกหนึ่งในญี่ปุ่น และอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าสู่โครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ในประเทศ เช่นเดียวกับธุรกิจสำรวจผลิตปิโตรเลียมที่มีความสนใจทั้งการประมูลแปลงสัมปทานในประเทศและเข้าซื้อธุรกิจในต่างประเทศ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายระดับ 9.7xP/E’58 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มพลังงานที่ 12.0xP/E’58 พร้อมกับให้ผลตอบแทนเงินปันผลน่าสนใจ 4.1% ปี 58