ลอยลมบน
*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังติดหล่มกับเรื่องเดิมๆ ทุกอย่างยังเป็นเกมของนักลงทุนรายใหญ่คอยกำหนด ขณะที่กองทุนขี้ตืด กับ ปอบผีฟ้า ก็สวมวิญญาณนักฉวยโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยม เดี๊ยนถึงไม่อยากมองอะไรไกลเกินกว่าที่เป็นอยู่ เพราะทุกครั้งที่คาดหวังสูงทีไร มักเกิดอาการอกหักดังเปาะเป็นประจำ ตั้งแต่นั้นเลยเลิกคาดหวังสิ่งต่างๆ ในทันทีเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังติดหล่มกับเรื่องเดิมๆ ทุกอย่างยังเป็นเกมของนักลงทุนรายใหญ่คอยกำหนด ขณะที่กองทุนขี้ตืด กับ ปอบผีฟ้า ก็สวมวิญญาณนักฉวยโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยม เดี๊ยนถึงไม่อยากมองอะไรไกลเกินกว่าที่เป็นอยู่ เพราะทุกครั้งที่คาดหวังสูงทีไร มักเกิดอาการอกหักดังเปาะเป็นประจำ ตั้งแต่นั้นเลยเลิกคาดหวังสิ่งต่างๆ ในทันทีเจ้าค่ะ
*เนื่องจากเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ปัจจัยหลายอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุม แถมกระแสข่าวที่ออกมาชอบประโคมแต่เรื่องดีๆ พอไม่เป็นอย่างที่มองกันไว้ มักออกข่าวร้ายๆ ตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นโอกาสที่ดัชนีจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง บวกกับในช่วงที่ผ่านมีแต่การเม้าท์ถึงปัจจัยลบหยุมหยิมเต็มไปหมด ใครจะกล้าขนเงินมาในตลาดหุ้นอีกล่ะค่ะ
*งานนี้ไม่ต้องบรรยายเรื่องราวต่างๆ ให้เสียเวลาทำมาหากิน เพราะประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเม้าท์ในเที่ยวนี้เป็นเรื่อง window dressing ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดิมๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกไตรมาส แถมทุกคนมีความคาดหวังต่อเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ จึงตั้งธงกันว่า ตลาดหุ้นจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องซะอย่างนั้น! ทั้งที่เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า นี่เป็นการปั่นรอบธรรมดาๆ เจ้าค่ะ
*นั่นหมายความว่า ความเสี่ยงในการลงทุนยังเท่าเดิม โอกาสกอบโกยกำไรยังเท่าเดิม ส่งผลให้หุ้นบลูชิพยังเป็นแค่ทางผ่าน หุ้นเก็งกำไรกลายเป็นตัวหลัก ดัชนีก็เลยแกว่งตัวขึ้นไปได้เรื่อยๆ เพราะกรอบเล่นในช่วงดันหุ้นแบบสุดตัวอยู่ที่ระดับ 1,600 จุด จึงไม่ต้องแปลกใจที่วานนี้ดัชนีพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1,581.14 จุด บวกไป 4.56 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.74 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นเกมที่ทุกคนพอเดาทางถูกนะคะ
*เดี๊ยนถึงไม่อยากขัดศรัทธาผู้เล่น เดี๋ยวจะหาว่า “มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ” เพราะทันทีที่เห็นหุ้น AOT เด้งขึ้นมาปิดที่ 46.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.41 พันล้านบาท มันหมายความว่า ยุทธการดันหุ้นยังดำเนินต่อไป บวกกับข้อมูลย้อนหลัง 3 ปีรายงานว่า ทุกปีหุ้นจะเทรดบนค่า P/E 32 เท่า ขณะที่ค่าล่าสุดเทรดที่ระดับ 31 เท่า จึงเป็นช็อตที่เล่นตามน้ำได้อีกนิดหน่อยนะจะบอกให้
*ส่วนกรณีของหุ้นปูนใหญ่ SCC โดนถล่มทิ้งอย่างหนักหน่วงตั้งแต่เช้าจรดเย็น “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะแรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำ หุ้นถึงดิ่งลงมาปิดที่ 512 บาท ลบไป 6 บาท ด้วยมูลค่า 1.28 พันล้านบาท แถมบางคนเม้าท์ถึงสาเหตุขายหุ้นครั้งนี้ น่าจะมีอะไรมากกว่าหน่อไม้ในกอไผ่ มันเป็นเรื่องที่น่ารับฟังอยู่เหมือนกัน ส่วนจะจริงหรือไม่ ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาอธิบายเองนะจ๊ะ
*ส่วนในรายของหุ้น SOLAR ทันทีที่มีการจุดพลุรอบใหม่ แมงเม่ากระโจนใส่อย่างเมามัน แถมขาใหญ่เข้ามาร่วมแจม ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.28 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 15.50% ด้วยมูลค่า 33 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมเสี่ยงที่ทุกคนพร้อมลุยต่ออยู่แล้ว แถมการขึ้นเที่ยวนี้เป็นจังหวะคาบลูกคาบดอก คนเล่นต้องวัดความไวกันเอาเองเจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องความไว “โมนิก้า” ต้องหันหลังมามอง ASAP ก่อนใครเพื่อนเลย แรงขับเคลื่อนของหุ้นเที่ยวนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ บวกกับผู้คนในตลาดหุ้นออกอาการหูผึ่งเมื่อมีข่าวแว่วๆ เกี่ยวกับกำไร new high หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 7 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 124 ล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าตามไปดูเสียจริงๆ แต่อย่าลืมว่า หุ้นปรับตัวขึ้นมาเยอะพอสมควรแล้วค่ะ
*ส่วนคนที่คาดกันว่า น่าจะพลิกโฉมกำไรอย่างมีนัยสำคัญในเที่ยวนี้ต้องยกให้ ETE หลังแรงซื้อไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก บวกกับบริษัทเตรียมจะรับทรัพย์ก้อนโตจากธุรกิจไฟฟ้า “โมนิก้า” ถึงต้องแนะนำให้แฟนคลับหันมามองหุ้นตัวนี้ด่วนจี๋! งานนี้ถ้าดีดลูกคิดเล่นๆ จะเห็นว่า เป้า 5 บาทไม่ไกลเกินเอื้อม แถมวานนี้หุ้นปิดแค่ระดับ 4.34บาท บวกไป0.24 บาท หรือขึ้นไป 5.85% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท ยังเหลือแก๊ปให้เล่นอีกเพียบแบบนี้..ห้ามพลาดนะคะ
*อีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” อยากให้จับตาดูต่อไปก็คือ ITEL ภายใต้การกุมบังเหียนของ “ณัฐนัย” ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่งยุค 4.0 ล่าสุดได้ข่าวว่าประสบความสำเร็จต่อเนื่องจนฉุดไม่อยู่ แถมธุรกิจใหม่ที่พยายามจะบุกเบิกก็มีลู่ทางที่ค่อนข้างสดใส ราคาหุ้นถึงพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 5.25 บาท บวกไป 0.33 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 98 ล้านบาท งานนี้บอกได้แค่ว่า ไม่รวยก็ให้มันรู้ไปซิ!
*เช่นเดียวกับในรายของ MM จู่ๆ กระชากขึ้นมาปิดที่ 5.55 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 9.90% ด้วยมูลค่า 167 ล้านบาท มันน่าจะมาจากโครงสร้างรายได้และกำไรดีขึ้น แรงซื้อถึงพรั่งพรูเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนเดี๊ยนต้องรีบมาเม้าท์ให้แฟนคลับฟังตั้งแต่เนิ่นๆ เดี๋ยวจะหาว่า มีอะไรดีแล้วไม่บอกกันบ้างเลย! งานนี้บอกได้ทันทีว่า วันนี้หุ้นน่าจะขยับขึ้นได้อีก หากไม่เป็นเหมือนที่เกริ่นนำไว้ ต้องรีบปรับขบวนทัพใหม่นะคะ