สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 มิ.ย.60


ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮ เมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ได้แสดงความเห็นที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,528.99 จุด พุ่งขึ้น 144.71 จุด หรือ +0.68% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,239.01 จุด เพิ่มขึ้น 87.25 จุด หรือ +1.42% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,453.46 จุด เพิ่มขึ้น 20.31 จุด หรือ +0.83%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) หลังจากพรรคอองมาร์ช (La Republique En Marche – REM) ของนายเอมมานูเอล มาครอง คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสภาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสรอบที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวที่ว่า การเจรจาระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป ในประเด็น Brexit เป็นไปอย่างราบรื่นในวันแรก

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.9% ปิดที่ 391.94 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,888.95 จุด เพิ่มขึ้น 136.22 จุด, +1.07% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,310.72 จุด เพิ่มขึ้น 47.41 จุด, +0.90% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,523.81 จุด เพิ่มขึ้น 60.27 จุด, +0.81%

 

ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) ด้วยแรงซื้อของนักลงทุนในหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันก่อนหน้า

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 60.27 จุด หรือ +0.81% ปิดที่ 7,523.81 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่าลิเบียและไนจีเรียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 22 ติดต่อกัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 54 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 44.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 46.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การแสดงความเห็นในด้านบวกของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำด้วยเช่นกัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ระดับ 1,246.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 15.9 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 16.502 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 926.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 10.05 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 855.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) ด้วยแรงหนุนจากการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กได้แสดงความคิดเห็นในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเขาคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวขึ้นต่อไป ขณะที่ตลาดแรงงานก็ยังอยู่ในทิศทางที่สดใส

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1151 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1195 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2732 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2782 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7596 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7626 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.48 เยน จากระดับ 110.83 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9754 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9736 ฟรังก์สวิส

Back to top button