ตลท.ไล่บี้ EARTH ทำธุรกิจต่อได้ไหม? หลังโดนเรียกหนี้คืน 5.5 พันลบ.

ตลท.ไล่บี้ EARTH ทำธุรกิจต่อได้ไหม หลังโดนเรียกหนี้คืน 5.5 พันลบ. ขณะเดียวกันยังคงเครื่องหมาย SP ไว้ตามเดิม หลังแจงผลกระทบยังไม่ชัดเจน


สืบเนื่องจากกรณีที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้หยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2560 เนื่องจากบริษัทแจ้งการผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนปี 60 มูลค่ารวม 1.50 พันล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนปี 62 มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท

โดยการผิดชำระหนี้ดังกล่าวจะเข้าเงื่อนไขการผิดนัดของหุ้นกู้ที่ระบุว่า “ผู้ออกหุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ยืม (มิใช่หนี้การค้า) หรือหนี้ประกันเป็นจำนวนเงินรวมกันไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ตามข้อกำหนดว่าด้วยการผิดนัดและผลของการผิดนัด ข้อ 11 และอาจเป็นเหตุให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติให้ถือว่าเงินต้นตามหุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลันพร้อมดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดและค้างชำระอยู่ในขณะนั้น ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้อาจลงมติเป็นประการอื่นได้ตามที่เห็นสมควร

บริษัทต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ ข้อ 11.2 หากบริษัทได้รับการร้องขอเป็นหนังสือจากผู้ถือหุ้นกู้ไม่ว่ารายเดียวหรือหลายรายที่ถือหุ้นกู้หรือถือหุ้นกู้รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นกู้ที่ยังมิได้ไถ่ถอนทั้งหมด

ทั้งนี้ มติที่ประชุมในเรื่องดังกล่าวต้องเป็นมติโดยคะแนนเสียงข้างมากไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นกู้ซึ่งเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนน หรือ บริษัทต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นโดยเร็ว ซึ่งจะต้องไม่เกิน 30 วันนับแต่เกิดกรณีดังกล่าว ตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้ ข้อ 12.1″

โดยการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ จึงให้ EARTH ชี้แจงว่า ปัจจุบันบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจตามปกติ หรือไม่ อย่างไร และชี้แจงผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท

ขณะที่ในวันนี้ (21 มิ.ย.60) เมื่อเวลา 9.03 น. EARTH ได้ทำการชี้แจงข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทมีมูลหนี้ค้างชำระกับสถาบันการเงินและตั๋วแลกเงินแล้วจำนวนรวมทั้งสิ้น 1.05 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้ตั๋วแลกเงิน รวมเป็นเงิน 160 ล้านบาท และหนี้ทรัสรีซีทและแพคกิ้งเครดิตกับสถาบันการเงิน รวมเป็นเงิน 887.13 ล้านบาท

อีกทั้งยังมีหนี้สินที่คาดว่าจะไม่สามารถชำระได้ภายในเดือนมิถุนายน 2560 รวมเป็นเงิน 405,706,091.10 บาท แบ่งเป็นหนี้ตั๋วแลกเงิน 1 ฉบับ รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดชำระหนี้ในวันนี้ (21 มิ.ย.) และหนี้ทรัสรีซีทและแพคกิ้งเครดิตกับสถาบันการเงิน 6 ฉบับ กับสถาบันการเงิน รวมเป็นเงิน 395.71 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปัจจุบัน บริษัทพยายามหาแนวทางการชำระหนี้ที่แน่นอนเป็นรูปธรรม เนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบัน การเงินทุกแห่ง อยู่ในช่วงเวลาของการแก้ไขปัญหาต่างๆ และปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งนี้ หากบริษัทมีความ คืบหน้าบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันนี้ (21 มิ.ย.) เวลา 9.10 น. ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคง “SP” หลักทรัพย์ EARTH เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้ชี้แจงผลกระทบที่ชัดเจน ว่า ปัจจุบันบริษัทมีการดำเนินธุรกิจอยู่หรือไม่อย่างไร ประกอบกับภาระหนี้ที่ผิดนัดและหนี้ที่คาดว่าจะผิดนัดมีนัยสำคัญอันอาจกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท

โดยที่บริษัทยังไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นสารสนเทศสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัท ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงยังคง “SP” หลักทรัพย์ EARTH จนกว่าบริษัทจะชี้แจงข้อมูลได้ชัดเจนและครบถ้วนตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สอบถาม

Back to top button