หุ้นทำวินโดว์ฯ
น่าจับตากับการทำวินโดว์ เดรสซิ่ง (Windows Dressing) รอบสิ้นไตรมาส 2/60
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
น่าจับตากับการทำวินโดว์ เดรสซิ่ง (Windows Dressing) รอบสิ้นไตรมาส 2/60
เพราะมีข่าวว่า จะมีการดันดัชนีแตะ 1,600 จุด
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จริงเท็จอย่างไร
แต่วานนี้ดัชนีปิดตลาดปรับลง 1.61 จุด มาอยู่ที่ 1,577.01 จุด
หุ้นอย่าง AOT ที่ราคาปรับขึ้นมาหลายวัน กระทั่งมีการขายทำกำไรออกมาวันก่อนหน้านี้ ส่วนวานนี้ราคาปิดไม่เปลี่ยนแปลง
เข้าไปดูข้อมูลของหุ้น AOT
พบว่ามีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปกว่า 6.57 แสนล้านบาท
เป็นอันดับ 2 รองจาก PTT ที่มีมาร์เก็ตแคป 1.088 ล้านล้านบาท
ทั้งหุ้น AOT และ PTT
ต่างก็เป็นเป้าหมายของกองทุนที่เข้ามาทำวินโดว์ฯ ในรอบล่าสุดนี้
ทว่า ก็ไม่แน่ใจว่าจะไปไหวหรือไม่
เพราะราคาหุ้น AOT ถือว่าขึ้นมาค่อนข้างสูง และใกล้เป้าหมายของโบรกฯ แล้ว ที่อยู่ระหว่าง 48-51 บาท
อัพไซด์ถือว่ามีไม่มาก
ส่วนหุ้น PTT ตอนนี้ก็กำลังเผชิญกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกวูบลงอย่างหนัก
ราคาน้ำมันดิบลงมาต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือน
ไม่แน่ใจว่า บริษัทลูกอย่าง PTTEP จะมีปัญหาเกี่ยวกับสต๊อกน้ำมันหรือไม่
หากดูจากบทวิเคราะห์ที่ออกมา และคุยกับนักวิเคราะห์เพิ่มเติม
ต่างก็ยังคงยืนยันว่า การเกิดวินโดว์ เดรสซิ่ง ในรอบนี้ หากดูจากสถิติย้อนหลังไป 10 ปี มีโอกาสมีถึง 80%
หุ้นที่เป็นเป้าหมายยังคงอยู่ในกลุ่ม SET50 เป็นส่วนใหญ่
เช่น SCB, KBANK, MINT และ IVL
ส่วนในกลุ่ม SET100 ก็อาจมีบ้าง
มีข้อมูลที่น่าสนใจ จาก บล.เคที ซีมิโก้
เป็นสถิติวินโดว์ เดรสซิ่ง ในไตรมาส 2 จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี (50-59)
เขาพบว่า ดัชนีให้ผลตอบแทนบวก 1.4% และ 1.2% ในช่วง 1 และ 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นไตรมาส 2 ครับ
และมีโอกาสที่ดัชนีปิดบวก 80%
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนดีสุด ในช่วงสัปดาห์สุดท้าย
นั่นก็คือ กลุ่มบริการเฉพาะกิจ +3.4%
กลุ่มธนาคาร +2.1% และกลุ่มการแพทย์ +2.0%
ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนต่ำสุด คือ กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง -0.2%
กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +0.1% และกลุ่มเหล็ก +0.2%
ส่วน บล.บัวหลวง ได้มองหุ้นที่คาดมีวินโดว์ เดรสซิ่ง จากสถิติพบ ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (บาทอ่อน) ปิโตรเคมี และ กลุ่มโรงพยาบาล
และหุ้นที่เป็นเป้าหมายของวินโดว์ เดรสซิ่ง คือ GGC ไอพีโอน้องใหม่
บล.ทิสโก้ มองหุ้นที่เข้าข่ายถูกทำหุ้น Window Dressing คือ ADVANC, CPN, GLOBAL, PTTEP และ TPIPL
หุ้นที่ถูกยกมานี้ ทางนักวิเคราะห์น่าจะมีข้อมูลว่า บรรดากองทุนน่าจะเก็บอยู่ในพอร์ตไว้ค่อนข้างเยอะ
จึงอาจจะมีการทำ (ลาก) ราคาขึ้นมาสูงๆ เพื่อให้ NAV ตัวเองสวยๆ เพราะจะต้องทำ Benchmark รายไตรมาส หรือไม่ให้ต่ำกว่า Benchmark