สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 มิ.ย.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์อ่อนแรงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,410.03 จุด ลดลง 57.11 จุด หรือ -0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,435.61 จุด ลดลง 1.42 จุด หรือ -0.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,233.95 จุด เพิ่มขึ้น 45.92 จุด หรือ +0.74%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน และความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส หลังจากมีรายงานว่า นายฟรองซัวส์ เบย์โรว์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมซึ่งมีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 388.50 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,774.26 จุด ลดลง 40.53 จุด หรือ -0.32% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,274.26 จุด ลดลง 19.39 จุด หรือ -0.37% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,447.79 จุด ลดลง 24.92 จุด หรือ -0.33%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ เมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) ด้วยแรงฉุดของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างหนัก นอกจากนี้ การที่เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สืบเนื่องจากหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางอังกฤษออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้นั้น ยังเป็นปัจจัยที่ฉุดหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติปรับตัวลง

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 24.92 จุด หรือ -0.33% ปิดที่ 7,447.79 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) โดยทองคำดีดตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยหนุนให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ระดับ 1,245.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4.3 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 16.374 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ 927 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 876.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือนเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) การผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และอาจเป็นปัจจัยขัดขวางความพยายามในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 98 เซนต์ หรือ 2.3% ปิดที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ดิ่งลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 44.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) หลังหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอังกฤษในปีนี้ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ แม้สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่ง

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1164 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1130 ดอลลาร์ ในขณะปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2669 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2630 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7558 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7582 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.31 เยน จากระดับ 111.42 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9727 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9753 ฟรังก์สวิส

Back to top button