CPF เด้งสวนตลาด โบรกฯมอง EU ให้ใบเหลืองไม่กระทบ-รัฐออกโรงช่วยเต็มสูบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ณ เวลา 11.03 น.อยู่ที่ 23.80 บาท บวก 0.20 บาทหรือ 0.85% โดยเปิดตลาดที่ 23.60 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.00 และย่อตัวลงแตะระดับต่ำสุดที่ 23.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 160.47 ล้านบาท

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.) ว่า หลัง EU ได้ออกประกาศเตือนประเทศไทยให้ดูแลเรื่องการทำประมงผิดกฏหมาย โดยให้เวลาถึงเดือน ต.ค. 15 ในการปรับปรุงและหากทำไม่สำเร็จทาง EU จะห้ามการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารทะเลจากไทย

ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าการเตือนไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานนอกจากผลลบต่ออารมณ์ของนักลงทุน ซึ่งหากภาครัฐไม่มีการดูแลอุตสาหกรรมประมงให้ดีขึ้นจะส่งผลลบต่อการทำประมงในประเทศไทย และก่อนหน้านี้เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์สามารถหลุดจากการโดนใบเหลืองได้

ทั้งนี้ มองว่าไม่มีผลกระทบต่อ CPF เนื่องจาก CPF เป็นสินค้าเกษตรล้วนๆ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว แนะนำให้ “ถือ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 24 บาท

ขณะที่เช้าวันนี้นายสุวพันธุ์  ตันยุวรรธนะ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลได้ยกการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการประมงเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งจากนี้เชื่อว่าภายใน 6 เดือนนี้ จะสามารถแก้ปัญหาตามที่สหภาพยุโรป หรือ อียูได้ให้ใบเหลืองไทยในธุรกิจประมงได้ทัน

ด้านนายปีติพงศ์  พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่าไทยมีเวลา 6 เดือนในการปรับปรุง คาดว่าไทยจะถูกปลด ใบเหลืองได้อย่างแน่นอน และเชื่อว่า อียูจะไม่ให้ใบแดง  จนมีผลกระทบต่อสินค้าประมงไทยที่ส่งออกไป อียูปีละ 32,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้อย่างเข้มข้น

ทั้งนี้กระทรวงฯจะหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยเสนอให้ออกพระราชกำหนด หรือใช้อำนาจตามมาตรา 44  เพื่อให้อำนาจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน  ที่จำเป็นในการจัดการในท่าเทียบเรือหรือศูนย์ควบคุมประมงที่จะมีดำเนินการตามที่กำหนด มีอำนาจในการตรวจค้นเรือกรณีพบพิรุธ เข้าดำเนินการเกี่ยวกับผู้ครอบครองเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย โดยจะได้ข้อสรุปใน1 สัปดาห์ก่อนที่คณะกรรมการอียูที่จะเดินทางมาติดตามงานในไทยต้นเดือน พฤษภาคมนี้

นายนพปฎล คุณวิบูลย์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยประจำสหภาพ ยุโรป เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม กล่าวว่า ไทยยังมีเวลาเจรจาอีก 6 เดือน และยังไม่มีผลต่อการส่งออก แต่มีผลกระทบด้านจิตวิทยา ทำให้ประเทศผู้นำเข้าเตรียมหาแหล่งวัตถุดิบสินค้าสำรองจากประเทศอื่นแทนบ้างแล้ว