บลจ.กรุงศรี ขาย KF-HSMUS ถึง 28 มิ.ย.นี้
บลจ.กรุงศรี เปิดกองทุน KF-HSMUS เสนอขายวันที่ 21-28 มิ.ย.60 ชูโอกาสเข้าถึงข้อมูลการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็กสหรัฐ
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด หรือ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสและสามารถเข้าถึงข้อมูลการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐ จึงเสนอทางเลือกใหม่ให้ผู้ลงทุนด้วยกองทุนเปิดกรุงศรียูเอสสมอล-มิดแคปอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HSMUS) เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21 – 28 มิ.ย.60
โดยกองทุน KF-HSMUS ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ Schroder ISF US Small & Mid-Cap Equity Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งได้รับ Morningstar Rating 4 ดาว (ที่มา : Morningstar ณ 30 เม.ย. 60) กองทุนหลักมีจุดแข็งในหลายด้าน ทั้งในส่วนของผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 37 ปี และทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
รวมทั้งมีกระบวนการลงทุนที่แตกต่างโดยกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ 3 ประเภท ทั้งในส่วนของหุ้นเติบโตสูง หุ้นที่มีรายได้หรือกำไรสม่ำเสมอ และหุ้นที่กำลังฟื้นตัว กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวมและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในแต่ละภาวะเศรษฐกิจ
“บริษัทเล็งเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของการจ้างงานและตัวเลขรายได้ยังคงแข็งแกร่ง สภาวะตลาดเอื้อต่อการเติบโตของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในสหรัฐ อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาหุ้นสามารถปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า GDP ของสหรัฐในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.2% – 2.3 % ซึ่งการเติบโตของ GDP ในระดับดังกล่าวถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐ อีกทั้งหุ้นขนาดเล็กสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ GDP เติบโต 2-3%”น.ส.ศิริพร กล่าว
สำหรับการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐจำนวนมากมีศักยภาพการเติบโตสูง แต่ด้วยข้อจำกัดด้านความครอบคลุมและการเข้าถึงข้อมูลของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่มีอยู่อย่างจำกัดทำให้ถูกนักลงทุนมองข้าม
ทั้งที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวมีความน่าสนใจและสามารถสร้างผลตอบแทนได้เหนือกว่าตลาดโดยรวมในระยะยาว และมีการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ ระดับราคาของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาวและได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากสัดส่วนรายได้ของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กส่วนใหญ่มาจากรายได้ในประเทศกว่า 80%
นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่านโยบายลดภาษีนิติบุคคลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีความเป็นไปได้สูง และหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์และมีโอกาสเติบโตที่ดีขึ้นจากการปรับลดภาษีนิติบุคคลดังกล่าวมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่จึงเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ทั้งนี้กองทุน KF-HSMUS เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมจากการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และมองหาโอกาสเพิ่มผลตอบแทนด้วยการลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Schroder ISF US Small & Mid-Cap Equity Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของNAV ความเสี่ยงสูงระดับ 6 กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน