ผู้ถือหน่วย HREIT ไฟเขียวขยายกองทุน ดันทรัพย์สินแตะหมื่นลบ.
HREIT จ่อยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. หวังลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมได้ภายในปลายปีนี้ หลังผู้ถือหน่วยไฟเขียวเพิ่มทุนมูลค่าทรัพย์สิน 1.69 พันลบ.
นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group และประธานกรรมการ บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) ครั้งที่ 1 ประจำปี 2560 ได้มีมติให้กองทรัสต์ HREIT เพิ่มทุนครั้งที่ 1
โดยมูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 1,690 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% และมีการชดเชยรายได้ในกรณีอาคารว่าง เป็นระยะเวลา 3 ปีแรก ซึ่งหลังจากที่มีการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะส่งผลให้ขนาดทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ HREIT โตเกือบ 10,000 ล้านบาท จากเดิมที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ ส่งผลให้นักลงทุนได้ประโยชน์จากการที่กองทรัสต์ HREIT มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายหน่วยลงทุน และช่วยเพิ่ม economy of scale ในการบริหารจัดการซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อผลการดำเนินงานของกองทรัสต์อีกด้วย
ทั้งนี้คาดว่า หลังจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะมีอัตราเงินสดสุทธิจ่ายให้กับผู้ถือหน่วย 0.77 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 9% กว่า เมื่อเทียบกับราคาตลาด ณ ปัจจุบัน
ด้านนางสาวกาญจนา เอื้อโอบอ้อม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) กล่าวว่าหลังจากที่ผู้ถือหน่วยได้มีมติเพิ่มทุนครั้งที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดทางกองทรัสต์HREIT ได้เตรียมยื่นแบบคำขอและไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเร็วๆนี้และคาดว่าจะสามารถเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมได้ภายในปลายปีนี้
สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ของกองทรัสต์ HREIT จะลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชจำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วยโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) (ESIE) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) โครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรี (HSIL) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี (HCIE) และ โครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค4 (HLP4)
โดยมีพื้นที่เช่าอาคารทั้งหมดในส่วนที่กองทรัสต์HREIT จะลงทุนเพิ่มเติม ประมาณ 55,131 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ลงทุนแล้ว 261,314 ตารางเมตรใน 6 โครงการที่กระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง ทำให้กองทรัสต์HREIT จะมีพื้นที่เช่าหลังจากที่ลงทุนเพิ่มเติมแล้วรวม 316,445 ตารางเมตร
ด้านกาญจนา กล่าวว่า “กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 1,690 ล้านบาท เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวในอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป 30 ปี และสิทธิต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี โดยพื้นที่ทรัพย์สินที่จะลงทุนทั้งสิ้น 55,131 ตารางเมตร (RBF 47,552 / RBW 7,579) การระดมทุนในการซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้ จะมาจากการขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 169 ล้านหน่วย และการกู้ยืมเงินระยะยาวจากสถาบันการเงินไม่เกิน 700 ล้านบาท ” นางสาวกาญจนา กล่าว
ทั้งนี้จากประมาณการการปันส่วนแบ่งกำไร และการแบ่งส่วนทุน (projected cash distribution per unit) ตามประมาณการงบกำไรขาดทุนตามสมมติฐานสำหรับปีที่คาดว่าจะได้รับหลังจากที่กองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมจะไม่ด้อยไปกว่าเมื่อเทียบกับประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยของผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่คาดว่าจะได้ในกรณีที่กองทรัสต์มิได้ทำการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติม
ขณะที่ นางสาวกาญจนา กล่าวว่า ทรัพย์สินที่ลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้เป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพดี และมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ มีศักยภาพในการสร้างรายได้ ซึ่งจะเพิ่มผลประโยชน์ให้กับกองทรัสต์ HREIT โดยมีโอกาสจะทำให้รายได้ค่าเช่าและผลประกอบการของกองทรัสต์ HREIT มีความมั่นคงเพิ่มขึ้น และกระจายความเสี่ยงของการจัดหาผลประโยชน์ เพิ่มความหลากหลายของผู้เช่าอันเป็นแหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งเป็นการลดการพึ่งพารายได้จากผู้เช่ารายเดิม