ศาลฯตัดสิน “วายแอลจี” บริสุทธิ์ ลูกค้าเทรดเจ๊งเอง-ไม่ไช่แชร์ลูกโซ่
“วายแอลจี” แจงลูกค้าเทรดเจ๊งเอง-ไม่ไช่แชร์ลูกโซ่ ยันเดินหน้าธุรกิจด้วยความสุจริต โปร่งใส มั่นใจกระบวนการยุติธรรม
จากกรณีที่มีนักลงทุนราว 200 ราย เข้าพบกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร้องเรียนว่าถูกบริษัท วายแอลจี บลูเลี่ยนอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG ได้ชักชวนให้ลงทุนในการซื้อ-ขาย ทองคำแท่ง โดยอ้างว่าเป็นผู้ค้าทองคำอันดับหนึ่งด้านการลงทุนทองคำแท่งประเภทชนิด 99.99% ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ (22 มิ.ย.) นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร YLG แถลงข่าวเพื่อชี้แจงว่า กรณีการกล่าวอ้งดังกล่าวส่งผลกระทบทั้งทางธุรกิจและภาพลักษณ์บริษัท จึงขอชี้แจงว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ในความจริงแล้วลูกค้ากลุ่มนี้มีประมาณ 10 กว่าราย เป็นลูกค้าที่ได้ซื้อขายทองคำแท่งกับบริษัทประมาณปี 2554 และได้ทำการเปิดบัญชีและทำสัญญาซื้อขายทองคำแท่งกับบริษัท และรับทราบรายละเอียดของเงื่อนไขในการซื้อขาย การชำระราคา และส่งมอบทองคำแท่ง
ทั้งนี้การกำหนดราคาการซื้อขายทองคำแท่ง ลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นผู้ตัดสินใจราคาเอง โดยอ้างอิงราคาทองคำตลาดโลกในขณะนั้น ซึ่งราคาตลาดโลกมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา (Real time) ลูกค้ากลุ่มนี้มีกำไรจากการซื้อขายทองคำแท่งตลอดมา
ต่อมาช่วงต้นเดือนเมษายน 2556 เกิดวิกฤตราคาทองคำในตลาดโลกลดลงอย่างมาก ทำให้ลูกค้าที่ทำการซื้อทองคำแท่งกับบริษัทในราคาที่สูงได้รับผลกระทบและเกิดผลขาดทุนจากภาวะการณ์ดังกล่าว ซึ่งลูกค้าทุกรายรับทราบถึงวิกฤตยอมรับผลขาดทุน และได้ชำระหนี้แก่บริษัทยกเว้นลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ยอมรับผลขาดทุน อีกทั้งได้ผิดนัดชำระหนี้
ดังนั้น บริษัทจึงได้ดำเนินการฟ้องร้องลูกค้ากลุ่มนี้ เรียกค่าเสียหายจากการไม่ชำระราคา ซึ่งคดีส่วนใหญ่ศาลได้พิจารณาพิพากษาให้บริษัทชนะคดีและมีการบังคับคดีบางส่วนแล้ว ยกเว้นบางคดีศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากขาดพยานหลักฐานบางส่วนและคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
โดยการวินิฉัยคดีทั้งหมดของศาล ศาลได้พิจารณาแล้วว่าธุรกรรมการซื้อขายของบริษัทเป็นการซื้อขายแบบปกติและชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่การซื้อขายทองคำแท่งล่วงหน้า ไม่ใช่เป็นเรื่องของแชร์ลูกโซ่ และไม่ใช่เป็นการหลอกลวงหรือฉ้อโกงลูกค้าแต่อย่างใด
โดยบริษัทได้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมส่งมอบพยานหลักฐานต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพิ่มเติมป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม โดยในระหว่างการชี้แจงต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษนี้ ลูกค้าของบริษัทยังสามารถดำเนินธุรกรรมกับบริษัทได้ตามปกติ
สำหรับการดำเนินการซื้อขายทองคำแท่งระหว่างลูกค้ากับบริษัททุกครั้ง มีขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ชัดเจน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ทั้งการยืนยันการซื้อขายทางโทรศัพท์ การบันทึกเทปการสนทนา การยืนยันคำสั่งซื้อขายระหว่างเจ้าหน้าที่และลูกค้า ตลอดจนจะต้องได้รับการยินยอมจากลูกค้า ในการตัดเงิน หรือการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขธนาคารแห่งประเทศไทยและไม่ได้ดำเนินธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่
“บริษัทขอยืนยันว่า ได้ดำเนินธุรกิจด้วยความสุจริต โปร่งใส ตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ และตระหนักเป็นอย่างดีถึงความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้าทั้งกลุ่มผู้ค้าทองคำ และลูกค้ารายย่อย จนบริษัทสามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านนำเข้าและส่งออกทองคำแท่งของไทยมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงขอให้ความมั่นใจแก่กลุ่มลูกค้าในการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ ด้วยจริยธรรมของผู้ประกอบการในแวดวงค้าทองคำที่มีชื่อเสียงมานานถึง 14 ปี” นางพวรรณ์ กล่าว