COM7 จ่อดึงพันธมิตรใหม่เสริมศักยภาพ หนุนกำไรโตสนั่น!
COM7 จ่อดึงพันธมิตรใหม่ เสริมศักยภาพหนุนกำไรโตกระฉูด! ด้าน โบรกฯ ชี้อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนยังเติบโต ผนวกกับการเปิดตัวสินค้าใหม่จากแบรนด์ชั้นนำจะช่วยหนุนกำไร Q2/60 โตต่อเนื่อง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 หลังจากผู้บริหารออกมาเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 2-3 ราย คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ 1 รายภายในเร็วๆ นี้ จึงมั่นใจว่าจะช่วยต่อธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ในปัจจุบันอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และแบรนด์สินค้าชั้นนำเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อ COM7 โดยตรง เนื่องจากเป็นตัวช่วยกระตุ้นยอดขายของ COM7 ให้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้การที่ COM7 เดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องนั้น จะส่งผลให้บริษัทมีรายเพิ่มขึ้นจากการขายสินค้า รวมทั้งเริ่มเห็นผลกำไรจากการเข้าร่วมบริหารจัดการร้าน True shop และการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ ทั้ง IT Zone ในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส และ U-Store ในมหาวิทยาลัยต่างๆ เชื่อว่าจะสามารถทำให้กำไรของ COM7 ในปีนี้เติบโตได้โดดเด่น
ทั้งนี้ ราคาหุ้น COM7 ปิดตลาดวานนี้ (22 มิ.ย.) อยู่ที่ 11.70 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.86% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 59.55 ล้านบาท โดยราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 15 บาท อยู่ 28.21%
โดย นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจจำนวน 2-3 ราย คาดจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ก่อน 1 ดีล ซึ่งมองว่า การต่อยอดธุรกิจจะเข้ามาช่วยสนับสนุน COM7 ให้เติบโตกว่าเป้าหมายที่วางไว้ได้ และเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีจากทิศทางไตรมาส 2/60 สามารถเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ จากภาพรวมยอดขายสินค้าไอที สมาร์ทโฟน และสินค้าแบรนด์แอปเปิลมีการเติบโตที่ดี มีการเปิดตัวสินค้าใหม่แบรนด์ชั้นนำที่ทยอยออกมากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธุรกิจ BaNANA Business สำหรับลูกค้าองค์กร สถานศึกษา มหาวิทยาลัย ที่จะเข้าไปรุกขยายตลาดมากขึ้น หลังบริษัทจับมือทีมบริหารที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดดังกล่าวโดยเฉพาะ และได้เพิ่มสาขา U-Store เข้ามาบริหาร เชื่อว่าจะเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า Apple ใน U-Store ซึ่งอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหลายแห่ง และยังมีแผนเชิงรุกในการขายแบบโซลูชั่นให้กับลูกค้าองค์กร พร้อมความครบวงจรยิ่งขึ้นด้วยการทำลิสซิ่ง โดยเชื่อว่าความพร้อมของ BaNANA Business จะมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจดังกล่าวปีนี้ 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากสินค้าของแอปเปิลและแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มากมายที่ทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/60 จะเข้ามารับรู้รายได้เต็มที่ตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นไป
ขณะที่ไตรมาส 4 ปกติเป็น High Season ของธุรกิจอยู่แล้ว ซึ่งยังไม่นับรวมการต่อยอดธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ที่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและคาดว่าจะสนับสนุนให้ผลงานครึ่งหลังของปี 60 เติบโตโดดเด่นกว่าเดิมได้ จึงมั่นใจว่าภาพรวมธุรกิจทั้งปี COM7 จะสามารถเดินตามเป้าหมาย ทำนิวไฮต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 17,211.6 ล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ COM7 ให้ราคาเป้าหมาย 15 บาทต่อหุ้น เทียบได้กับ P/E = 33 เท่า มองอัตราการเติบโตกำไรเฉลี่ยใน 3 ปีข้างหน้า(60-62) ที่ 21% จะคิดเป็น PEG = 1.6 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มค้าปลีก (SETCOMM) ที่บน PEG ราว 2 เท่า จึงนับว่ายังไม่แพงเมื่อเทียบกับกลุ่ม
ทั้งนี้เชื่อมั่นต่อแนวโน้มการเติบโตของ COM7 ที่เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้า IT เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่ได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันไปแล้ว ประกอบกับกระแสตอบรับที่ดีของผู้บริโภคทุกครั้งในการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ไม่ว่าจะมาจากผู้พัฒนาหลักทั้ง Samsung-Apple หรือผู้พัฒนาจากจีน (Huawei,Oppo,Vivo) ที่มีพัฒนาการที่น่าสนใจ
ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิปี 60 จะอยู่ที่ 538 ล้านบาท เติบโต 32% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ประเมินราคาพื้นฐานด้วยวิธี DCF คิดเป็นราคาพื้นฐานเท่ากับ 15 บาทต่อหุ้น สำหรับแผนการเติบโตในปี 60 บริษัทจะเปิดสาขาต่อเนื่องอีก 168 สาขาเป็น 536 สาขาภายในสิ้นปีนี้ โดย ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/60 มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น 22 สาขาจาก ณ สิ้นปี 59 มาเป็น 390 สาขา ทั้งนี้สาขาที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสิทธิการร่วมบริหารจัดการร้าน True shop ที่เริ่มดำเนินงานแล้วถึง 62 สาขา โดยตั้งเป้าเปิดให้ถึง 80 สาขาในปีนี้
ขณะที่ปัจจุบันเริ่มทำกำไรได้แล้ว ทั้งนี้บริษัทกำลังปรับรูปแบบการจัดการภายในเน้นการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นบางส่วนลง คาดเห็นผลในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนยอดขาย True sim card ในไตรมาส 1/60 ที่ 47,000 เลขหมายได้ตามเป้าที่ 15,000 เลขหมาย/เดือน หนุนส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมอีกทางหนึ่ง ส่วนประเด็นที่ตลาดกังวลการเข้ามาเปิด Flagship store โดย Apple มองเป็นบวกมากกว่า และไม่เห็นถึงความคุ้มค่าในการที่ Apple จะทำการตลาดด้วยตนเอง
ทั้งนี้ในปี 60 กลุ่มสินค้าที่บริษัทจะเริ่มทำตลาดมากขึ้น ได้แก่ สมาร์ทโฟน (นอกเหนือจาก iPhone) ที่บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2% จากตลาดที่มีมูลค่ารวมถึง 7 หมื่นล้านบาท ด้วยช่องทางที่หลากหลายและครอบคลุมทั่วประเทศ จึงไม่ใช่สิ่งที่เกินศักยภาพของบริษัทที่จะชิงส่วนแบ่งเป็นราว 5%
รวมทั้งการเริ่มรุกเข้าสู่ตลาดกล้องดิจิตอลในปีนี้ บนตลาดที่มีมูลค่าราว 8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าที่ใกล้เคียงกับองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม บริษัทจึงตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดในช่วงแรก 5% ด้วยการเปิด 5 สาขาใหม่รองรับ ประเมินยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10
นอกเหนือจากการเติบโตจากช่องทางที่มีอยู่เดิม บริษัทได้มองหาโอกาสในการเพื่อเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ ได้แก่ บริษัทได้รับสิทธิการบริหาร IT Zone ภายใน Tesco lotus ปัจจุบันเริ่มดำเนินการแล้ว 28 สาขา พร้อมตั้งเป้าขยายเป็น 50 สาขาในปีนี้ และการรุกเข้าสู่กลุ่มสถานศึกษามากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กรและผ่าน U-Store
พร้อมกับการผนวกระบบการขาย Online เข้ากับหน้าร้านในการจัดส่งสินค้าระหว่างสาขาทำให้โอกาสการขายเพิ่มขึ้นรวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคงคลังไปในตัว ช่วยลดเงินทุนหมุนเวียนหนุนวงจรกระแสเงินสดของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมาย COM7 ที่ 12.7 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ยังให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 15 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 2/60 โตเด่นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีโอกาสที่จะโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/60 หลังมีธุรกิจใหม่ เริ่มปลายไตรมาส 2/60 เช่น การเข้าบริหารพื้นที่ในเทสโก้ โลตัส ร้านใหม่ๆ และการขายเข้าองค์กรการศึกษา เป็นต้น ส่วนในไตรมาส 4/60 จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple เช่น iPad 10.5″, MacBook, iPhone ใหม่, Home pod