ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย – บล.เอเซีย พลัส
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
แนวรับเทคนิคที่วางเอาไว้ 1,อ47 จุดทำงานได้ดี ช่วงบ่ายอาจขึ้นต่อเพื่อทดสอบ 1,อ63 จุด แต่ยังต้องระวังแรงขายทำกำไรจากกอง Trigger Fund เชื่อว่ายังมีเหลือขายอีกเยอะ กลยุทธ์ Selective Buy เลือกหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการงวด 1Qอ8 โดดเด่น VNG, TASCO, PYLON, RCL
มุมมองและการวิเคราะห์ :
– วานนี้นักลงทุนสถาบันขายทำกำไรออกมาอย่างหนักกว่า 3 พันล้านบาท คาดว่าแรงขายส่วนใหญ่น่าจะมาจากบรรดากอง Trigger Fund ที่สามารถทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ฝ่ายวิจัยแจ้งเตือนมาตลอดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หากย้อนกลับไปดูเมื่อเดือน มี.ค.58 จะพบว่ามีกอง Trigger Fund กองใหม่ๆทำการเสนอขายกว่า 12 กอง แบ่งเป็นกองที่เสนอขายในช่วง 27 ก.พ. – 17 มี.ค.58 มีอยู่ 5 กองขนาดรวม 6 พันล้านบาท และกองที่เสนอขายในช่วง 17 มี.ค. – 1 เม.ย.58 มี 7 กองขนาด 8.5 พันล้านบาท หากไปดูที่การซื้อของสถาบันจะพบว่าตั้งแต่ 18 มี.ค. – 16 เม.ย.58 สถาบันซื้อสุทธิไปแล้วกว่า 1.54 หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาดังกล่าว SET lndex ให้ผลตอบแทนสูงสุดเกือบ 4% จนยอดซื้อสะสมของสถาบันเมื่อคิดตามมูลค่าตลาดสูงถึง 1.6 หมื่นล้านบาท การขายสุทธิทำกำไรในช่วง 4 วันที่ผ่านมากว่า 5.6 พันล้านบาท จึงเป็นไปได้ที่ยังเหลือปริมาณที่สามารถขายได้อีกเป็นจำนวนพอสมควร จึงยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง
– เมื่อลองย้อนกลับไปอ่านรายงานการประชุมรอบวันที่ 11 มี.ค.58 จะมี Key Point ต่างๆดังนี้
– เศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 และเดือน ม.ค.58 มีการฟื้นตัวช้า และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงกว่าที่ประเมินไว้
– อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก แรงกดดันจากเงินเฟ้อจึงอยู่ในระดับที่ต่ำและใกล้เคียงกับที่-คณะกรรมการคาด
– กรรมการ 4 คน มีความเห็นให้ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนทางเศรษฐกิจ
– กรรมการ 3 คนประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำเพียงพอต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ควรรักษาขีด-ความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินไว้สำหรับเวลาที่จำเป็นและมีประสิทธิผลมากกว่าปัจจุบัน
– การกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันควรอาศัยแรงขับเคลื่อนด้านการคลังมากขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินการตามแผนการลงทุนของภาครัฐ
– จากรายงานดังกล่าว จะเห็น Key สำคัญคือ คณะกรรมการให้ความสำคัญต่อการรักษาขีดความสามารถในการใช้นโยบายการเงิน (กระสุนในการลดดอกเบี้ย) ซึ่งในตอนนี้อยู่ที่ระดับ 1.75% เหลือระดับในการลดอีกไม่กี่ขั้นเท่านั้น อีกทั้งคณะกรรมการยังมีความต้องการที่จะเห็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนโยบายการคลังมากขึ้น เหล่านี้ อาจทำให้การประชุมของ คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) ในวันที่ 29 เม.ย.58 นี้ กนง.น่าจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ต่อไปก่อน แต่ในอีกการประชุม 5 ครั้งที่เหลือของปี คาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 1 ครั้งสู่ระดับ 1.5%
– ภาพเทคนิคของ SET ฟื้นตัวขึ้นมาจากบริเวณแนวรับที่ฝ่ายวิจัยวาดไว้เมื่อเช้าที่ 1,547 จุด มองช่วงบ่ายมีโอกาสไปทดสอบที่ 1,563 จุด หากผ่านได้อาจไปต่อถึง 1,565 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic : นับจากนี้น่าจะให้ความสนใจต่อหุ้นภาคการผลิต รายตัวที่คาดว่าจะมีผลกำไรที่สดใส เลือกเก็งกำไรผลประกอบการ VNG, RCL, PYLON
– หุ้นพลังงานที่ยัง Laggards PTTEP, PTTGC
– หุ้น PE ต่ำ และมี Story เด่น STPl, BJCHl
– หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง ASK, SPALl
– Portfolio Update : ASK, SPALl, STPl, BJCHl, PTTEP