IFEC ส่อเรียกประชุมวิฯใหม่ ลือเลือกตั้งบอร์ด 2 พ.ค. ถูกสั่งเป็นโมฆะ!
IFEC ส่อเค้าเรียกประชุมวิฯใหม่ ลือเลือกตั้งบอร์ด 2 พ.ค. ถูกสั่งเป็นโมฆะ!
นายประจักษ์ รัศมี ทนายความที่ได้รับการมอบหมายจากผู้ถือหุ้นรายย่อย บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวอ้างคำวินิจฉัยของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
โดยที่ประชุมฯมีความเห็นว่าการประชุมผู้ถือหุ้น IFEC เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2560 ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ หลังจากผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากวิธีการเลือกตั้งกรรมการ มิชอบด้วยกฎหมายและขัดข้อบังคับของ IFEC ซึ่งผลที่ตามมาคือ มติกรรมการหลังจากวัน 2 พ.ค.60 ถือเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ จะต้องมีการตีความข้อผูกพันด้านกฎหมาย ถึงมติบอร์ดไอเฟค ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงกรรมการ บริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ แคปแมเนจเม้นท์ จำกัด (ICAP) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นโรงแรมดาราเทวี และการเข้าควบคุมอำนาจการบริหารโรงแรมดาราเทวี ภายใต้การบริหารงานของประธานไอเฟค และกรรมการชุดปัจจุบัน ถูกกฎหมายหรือไม่
“ โรงแรมดาราเทวีถือเป็นทรัพย์สินหลักที่มีมูลค่าสูงที่สุด ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาทราบว่ามีการโอนเงินทุนหมุนเวียนออกไปหลายสิบล้านบาทอาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านการเงินและเครดิตทางการค้ากับโรงแรมได้ รวมไปถึงมีพนักงานระดับบริหารลาออกหลายท่าน และมีค่าใช้จ่ายหลายรายการที่เพิ่มสูงกว่าเดิมอย่างมีนัยยะสำคัญเรื่องต่างๆเหล่านี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ ”
ทนายความที่ได้รับการมอบหมายจากผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในไอเฟค ในห้วงเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร IFEC ยึดอำนาจการบริหารบริษัทฯอย่างไม่ถูกต้องมาตั้งแต่การประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 14 ก.พ.60 ที่ใช้การลงคะแนนเลือกกรรมการแบบเดียวกันกับที่ถูกกระทรวงพาณิชย์สั่งให้เป็นโมฆะ นายวิชัยและคณะกรรมการที่จัดประชุมผู้ถือหุ้นแบบผิดกฎหมายทั้ง 2 ครั้งจะถูกดำเนินคดีอาญา โดยขณะนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ เพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา เนื่องจากสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับบริษัทฯและผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ หากที่ประชุมกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการวินิจฉัยว่า มติการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น IFEC เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นโมฆะจริง ตามที่นายประจักษ์กล่าวอ้าง บริษัทฯจะต้องดำเนินการจัดการประชุมวิสามัญอีกครั้งเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ให้ครบตามจำนวนที่กฏหมายกำหนด
โดยปัจจุบัน คณะกรรมการ IFEC มีเหลืออยู่เพียง 5 ราย หลังจากนายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ซึ่งเคยเป็นอดีตกรรมการบริษัทฯพร้อมกรรมการอื่นอีก 3 รายได้ประกาศลาออกไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค.60
ขณะที่กรรมการ 1 ใน 5 ราย คือ นายธีติพันธ์ เทพผดุงพร นั้น ได้รับการเลือกตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งจากการลงคะแนนเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าว ดังนั้นจึงหมายความว่า ปัจจุบัน IFEC จะมีกรรมการเหลืออยู่เพียง 4 ราย เท่านั้น หากมติที่ประชุมฯถูกนับเป็นโมฆะจริง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชัยได้สั่งให้มีการใช้วิธีการลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกกรรมการด้วยวิธีการที่ขัดต่อข้อบังคับบริษัทฯ ซึ่งได้รับการจดทะเบียนโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2557 และลงนามโดยนายวิชัย ร่วมกับนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตกรรมการ
โดยข้อบังคับดังกล่าว คือ ข้อบังคับ ข้อ 20 ซึ่งระบุว่า
กรรมการนั้นให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเลือกตั้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้
(1) ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากันหนึ่งหุ้นต่อหนึ่งเสียง
(2) ผู้ถือหุ้นแต่ละคนจะต้องใช้คะแนนเสียงที่มีอยู่ทั้งหมดตาม (1) เลือกตั้งบุคคลคนเดียวหรือหลายคนเป็นกรรมการก็ได้ แต่จะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงใดไม่ได้
(3) บุคคลซึ่งได้รับคะแนนเสียงสูงสุดตามลำดับลงมา เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการเท่าจำนวนกรรมการที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นต้องเลือกตั้งในครั้งนั้น ในกรณีที่บุคคลซึ่งได้รับการเลือกตั้งในลำดับถัดลงมามีคะแนนเสียงเท่ากันเกินจำนวนกรรมการที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นต้องเลือกตั้งในครั้งนั้น ให้ประธานเป็นผู้ออกเสียงชี้ขาด