สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 มิ.ย.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการอื่นๆ รวมถึงมาตรการปฏิรูปภาษี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข่าวคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) สั่งปรับบริษัทกูเกิลในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากการให้บริการช้อปปิ้งออนไลน์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,310.66 จุด ลดลง 98.89 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,419.38 จุด ลดลง 19.69 จุด หรือ -0.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6146.62 จุด ร่วงลง 100.53 จุด หรือ -1.61%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) หลังจากที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยระบุว่า ECB ควรปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และนโยบายซื้อพันธบัตรจำนวนมาก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มบริษัทรถยนต์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 385.98 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.ปีนี้

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,671.02 จุด ลดลง 99.81 จุด หรือ -0.78% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,258.58 จุด ลดลง 37.17 จุด หรือ -0.70% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,434.36 จุด ลดลง 12.44 จุด หรือ -0.17%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่สามารถลดช่วงลบของตลาดได้

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,434.36 จุด ลดลง 12.44 จุด หรือ -0.17%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้น เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 44.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 46.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้น เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ นอกจากนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบขาวที่ระบุว่า รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด วางแผนที่จะใช้อาวุธเคมีในการโจมตีพลเรือนครั้งใหม่นั้น ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,246.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 16.651 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 920.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 858.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนมิ.ย.

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1339 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1191 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2800 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2715 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7592 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7588 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 112.15 เยน จากระดับ 111.70 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9601 ฟรังก์ จากระดับ 0.9717 ฟรังก์

Back to top button