KTCงบ1Q58 ออกมาน่าประทับใจ-ซื้อปรับประมาณการกำไร-ราคาเป้าหมาย
บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) ว่าบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเติบโต 9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนผลักดันจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ 8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ NIM ที่เพิ่มขึ้น 14bps โดยสินเชื่อหดตัวลง 3%เทียบไตรมาสก่อนหน้าจากผลของฤดูกาล รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 13%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการใช้จ่ายบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นถึง 10% และหนี้เสียที่ปรับตัวดีขึ้นกว่า 16% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 15%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล
บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) ว่าบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเติบโต 9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนผลักดันจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ 8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ NIM ที่เพิ่มขึ้น 14bps โดยสินเชื่อหดตัวลง 3%เทียบไตรมาสก่อนหน้าจากผลของฤดูกาล รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 13%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการใช้จ่ายบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นถึง 10% และหนี้เสียที่ปรับตัวดีขึ้นกว่า 16% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 15%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล
KTC ตั้งสำรองที่ 1.1 พันล้านบาทใน ไตรมาส1/58 ลดลงจากปีที่แล้ว 9% และจากไตรมาสที่แล้ว 18% เนื่องจากมี Loan loss reserve ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นกำไรสุทธิ ไตรมาส1/58 เติบโตสูงถึง 62%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 35%เทียบไตรมาสก่อนหน้าเป็น 574 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา เรามองว่าคุณภาพสินทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจาก 2.44% NPLs ratio และ 364% NPL coverage ใน 4Q57 โดย KTC จะทำการประกาศ Loan loss reserve และ NPLs ในกลางเดือนพฤษภาคม
โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองจะลดลง ขณะที่ NIM จะปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ KTC จะออกหุ้นกู้จำนวน 4.2 พันล้านบาทใน 2H58 และจำนวน 5.2 พันล้านบาทในปี 2559 โดยเราคาดอัตราดอกเบี้ยจะต่ำลดลงเป็น 4.0% จาก 4.65-6.0% หลังอัตราดอกเบี้ยนโยบายถูกปรับลดลง ขณะที่เครดิตเรตติ้งของบริษัทถูกปรับขึ้นเป็น A- จาก BBB+ เราได้ทำการปรับลดสมมติฐานค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองในปีนี้และปีหน้าลง 8.85% และ 8.50% ตามลำดับ ดังนั้นประมาณการการเติบโตกำไรของเราในปีนี้และปีหน้าปรับตัวขึ้น 3-7% เราคาดกำไรจะเติบโต 30% ในปีนี้ และ 19% ในปีหน้า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 130 บาท คิดเป็น 14.7 เท่า 2558 PE และ 0.7 เท่า PEG
นอกจากนี้KTC จะออกหุ้นกู้จำนวน 4.2 พันล้านบาทในครึ่งหลังปี58 และจำนวน 5.2 พันล้านบาทในปี 2559 โดยเราคาดอัตราดอกเบี้ยจะต่ำลดลงเป็น 4.0% จาก 4.65-6.0% หลังอัตราดอกเบี้ยนโยบายถูกปรับลดลง ขณะที่เครดิตเรตติ้งของบริษัทถูกปรับขึ้นเป็น A- จาก BBB+ และดังนั้นเราคาดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลง 19 ล้านบาทในปีนี้ และ 80 ล้านบาทในปีหน้า