GFPT โบรกฯชี้ราคาหุ้นลงแรง แนวโน้มกำไรแกร่งซื้อเป้า 23 บ.
GFPT โบรกฯชี้ราคาหุ้นลงแรง แนวโน้มกำไรแกร่งแนะซื้อเป้า 23 บ.
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(29 มิ.ย.)ว่า บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT มีกระแสข่าวว่าเกิดอหิวาต์ไก่ที่อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ซึ่งต้นเชื้อมาจากฟาร์มครัวเรือนมากและได้ระบาดไปในพื้นที่ใกล้เคียง ทางการได้ทำการตรวจสอบเชื้อในไก่และคนเลี้ยงแล้ว อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจ ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ผลกระทบต่อ GFPT : ในขณะนี้ยังไม่มีผลต่อบริษัท เพราะบริษัทเลี้ยงไก่ในฟาร์มปิดของตัวเองทั้งหมด (ฟาร์มบริษัทอยู่ที่จังหวัดชลบุรี) และกรณีที่แย่ที่สุด หากเกิดการระบาดของอหิวาต์และถูกผู้นำต่างประเทศแบนไม่นำเข้าไก่สดแช่แข็งจากไทย ก็จะกระทบบริษัทโดยตรงไม่มาก ทั้งนี้ปัจจุบัน GFPT มีรายได้จากส่งออกไก่สดแช่แข็งประมาณ 5% ของรายได้รวม แต่จะมีผลกระทบทางอ้อมจากราคาไก่ในประเทศลดลงอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ดีผู้บริหารประเมินว่าโอกาสที่จะเกิดกรณีที่แย่ที่สุดน้อยมาก เพราะทางการได้เข้าไปดูแลและควบคุมสถานการณ์แล้ว
แนวโน้มธุรกิจไก่ส่งออกโดยรวมปี 2560 ไปได้ดี ราคาไก่ในประเทศปรับขึ้นเป็น 40 บาท/กก.ในเดือนเม.ย.60 และอยู่ที่ 38-39 บาท/กก.ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.60 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 38 บาท/กก.ใน 1Q60 และเพิ่มจากเฉลี่ย 36.4 บาทต่อกก.ในปี 59 ราคาส่งออกไปญี่ปุ่นแข็งแกร่งเพราะอุปสงค์สูงมากหลังจากที่ผู้นำเข้าชะลอการนำเข้าจากบราซิลหลังพบสารปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ส่งออกช่วงต้นปี 60 จึงหันมานำเข้าจากไทยแทน โดยส่วนหนึ่งเป็นคำสั่งซื้อที่ต่อเนื่องในระยะยาว ส่งผลให้ปริมาณส่งออกไก่ของ GFPT ปีนี้จะเติบโตได้ 10% (จากเดิมที่คาดว่าจะโต 5-6%) ด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังไม่กดดัน มาร์จิ้นอาหารสัตว์อยู่ในเกณฑ์ดี
ประเมินว่าผลประกอบการ 2Q60 จะแข็งแกร่ง (คาดการณ์โต 14%YoY และ 2%QoQ เป็น 434 ล้านบาท) โดยประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 16% จาก 15.3% ใน 1Q60 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (GFN, McKey) จะเพิ่มขึ้น QoQ โดยหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นของ GFN หลังราคาไก่ในประเทศขยับขึ้นและส่งออกไปญี่ปุ่นได้ดี แนวโน้มกำไร 3Q60 คาดว่าจะดีขึ้นไปอีกเพราะเป็น High Season ของการส่งออก โดยรวมทั้งปี 60 คาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัว 15.4% เป็น 1.89 พันล้านบาท (EPS : 1.50 บาท) และทรงตัวสูงที่ 1.9 พันล้านบาทในปี 61
ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ (เดิมถือ) เพราะราคาหุ้นปรับลงแรงจนมี Upside ที่สูง โดยราคาปัจจุบันเทียบกับราคาพื้นฐานให้ไว้ 23 บาท (อิง P/E ปีนี้ 15 เท่า) มี Upside 19%