จบสักที! ศาลฎีกายกคำฟ้อง CK คดีค่าโง่ทางด่วน กพท.

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัทร่วมค้า บีบีซีดีฟ้องร้องเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) ตามสัญญาจ้างเหมาออกแบบรวมก่อสร้างโครงการทางด่วนสายบางนา-บางพลี-บางปะกง ตั้งแต่ปี 2543

โดยคณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดให้ฝ่ายผู้ว่าจ้างจ่ายเงินค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นพร้อมดอกเบี้ยแก่กิจการร่วมค้า บีบีซีดี โดยกิจการร่วมค้า บีบีซีดี ได้บันทึกจำนวนเงินดังกล่าวเป็นสินทรัพย์และรายได้ในงบการเงินสำหรับปี 2544 ซึ่งตามสัดส่วนของบริษัทที่มีในกิจการร่วมค้า คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 2.5 พันล้านบาท 

ในเวลาต่อมาวันที่ 11 ก.พ.51 กิจการร่วมค้า บีบีซีดี ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าจ้างต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่กิจการร่วมค้า บีบีซีดี ได้ใช้จ่ายไปคืนจากผู้ว่าจ้างในฐานลาภมิควรได้รวมเป็นเงินค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยคำนวณจนถึงวันฟ้องจำนวนเงินประมาณ 3.4 พันล้านบาท (ตามสัดส่วนของบริษัทที่มีในกิจการร่วมค้า)

ขณะที่เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2554 ศาลแพ่งจึงได้มีคำพิพากษาให้ผู้ว่าจ้างชำระเงินให้แก่กิจการร่วมค้า บีบีซีดี จำนวน 1.75 พันล้านบาท (ตามสัดส่วนของบริษัทฯ ที่มีในกิจการร่วมค้า) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 15 ก.พ.50 เป็นต้นไป จนกว่าผู้ว่าจ้างจะชำระหนี้ให้แก่กิจการร่วมค้า บีบีซีดี เสร็จสิ้น

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2560 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2556 ที่ให้ยกฟ้องของกิจการร่วมค้า บีบีซีดี

อย่างไรก็ตาม ผลของคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่องบการเงินของบริษัทแต่ประการใด เนื่องจากกิจการร่วมค้า บีบีซีดี ได้มีการบันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนไว้ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งขณะนี้ กิจการร่วมค้า บีบีซีดี อยู่ในระหว่างการพิจารณาในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อนึ่ง กิจการร่วมค้า บีบีซีดี ประกอบด้วย บริษัท บิลฟิงเกอร์ เบอร์เกอร์ เอจี จำกัด มีสัดส่วนการร่วมค้า ร้อยละ 40, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK มีสัดส่วนการร่วมค้า ร้อยละ 35 และบริษัท วัลเทอร์เบา เอจี จำกัด มีสัดส่วนการร่วมค้าร้อยละ 25