Afternoon Update – บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ

คำแนะนำ รอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาแล้วค่อยเข้าซื้อ หรื …


คำแนะนำ

รอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาแล้วค่อยเข้าซื้อ หรือ หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,248-1,258 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป

สรุป 

ราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชียปรับตัวลดลงโดยได้รับแรงกดดันจากการขยับขึ้นของดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 95.745 ในวันนี้

ขยับขึ้นจุดต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ 95.470 ในวันศุกร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีในช่วงเช้าวันนี้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ประกอบกับนักลงทุนในตลาดเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อทองคำเพิ่มก่อนตลาดเงินตลาดทุนของสหรัฐจะปิดทำการในวันอังคารที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐอเมริกา(lndependence

Day) ด้านค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วสกุลเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินหลักอื่นๆ คาดค่าเงินบาทวันนี้จะยังแกว่งตัวในกรอบ33.90-

34.00 บาทต่อดอลลาร์ เพื่อรอปัจจัยใหม่โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในช่วงกลางสัปดาห์ สำหรับวันนี้ติดตาม lSM เปิดเผยดัชนี PMl ภาคการผลิตของ

สหรัฐเพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น โดยราคาทองคำยังคงพยายามกลับขึ้นไปทดสอบเหนือ 1,248ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้มีแนวโน้มปรับ

ตัวขึ้นต่อเพื่อทดสอบ 1,258 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถปรับขึ้นได้จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะโดยประเมินแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,236 และแนวรับถัดไปจะอยู่บริเวณ 1,223

ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่าน 1,248-1,258 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ยังคงแนะนำให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วนและสำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรฝั่งซื้อ

ระยะสั้นยังคงต้องตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้าให้ชัดเจน โดยรอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,236 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อเล่นสั้นหากราคาทองคำยืนเหนือแนวรับได้

ข่าวสารประกอบการลงทุน         

(+) ทรัมป์”ต่อสายตรงหารือผู้นำจีน,ญี่ปุ่นกรณีภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้หารือกับประธานาธิบดีสี่ จิ้นผิงของ

จีน และนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ และได้พูดคุยถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือ “ผู้นำทั้งสองได้ยืนยันพันธะสัญญาของพวกเขาต่อคาบสมุทรเกาหลีที่ปลอด

นิวเคลียร์ ปธน.ทรัมป์ได้ย้ำความตั้งใจของเขาที่จะสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่สมดุลมากขึ้นกับคู่ค้าของสหรัฐ” ทำเนียบขาวระบุ ปธน.ทรัมป์รู้สึกผิดหวังมากขึ้นกับการที่จีนไม่สามารถควบคุม

เกาหลีเหนือได้ ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์และนายอาเบะได้ย้ำพันธะสัญญาของพวกเขาที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือ “พวกเขายืนยันว่า การเป็นพันธมิตรของสหรัฐและญี่ปุ่นพร้อมที่จะปกป้อง

และจัดการกับภัยคุกคาม หรือการกระทำใดๆ ของเกาหลีเหนือ” ทำเนียบขาวระบุ

(+) จีนเผยเรือพิฆาต USS Stethem ของสหรัฐรุกล้ำน่านน้ำจีน นายลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรือ

พิฆาต “USS Stethem” ของสหรัฐ ได้รุกล้ำน่านน้ำจีน บริเวณหมู่เกาะซีซา ขณะที่จีนเองก็ได้ส่งเรือรบและเครื่องบินรบตอบโต้การกระทำดังกล่าวของสหรัฐ นายลู่ กัง กล่าวว่า หมู่เกาะซี

ซาเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนตามกฎหมายอาณาเขตน่านน้ำและเขตต่อเนื่องของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งรัฐบาลจีนประกาศใช้บรรทัดฐานของน่านน้ำนอกหมู่เกาะซีซาเมื่อปี 2539 นอกจาก

นี้ นายลู่ กัง ยังกล่าวว่า สหรัฐส่งเรือรบดังกล่าวเข้าสู่น่านน้ำนอกชายฝั่งของหมู่เกาะซีซาภายใต้ข้ออ้างของ “เสรีภาพในการเดินเรือ” โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากจีน ซึ่งการกระทาดังกล่าว

เป็นการละเมิดทั้งกฎหมายของจีนและกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งยังละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศจีน ทำลายความสงบสุข ความมั่นคง และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของน่านน้ำ

บริเวณใกล้เคียง

(-) ดอลล์ขยับขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในวันนี้ แต่ดัชนีดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดัน

ในขณะที่ยูโรและปอนด์ได้รับแรงหนุนจากสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะปรับลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 95.745

ในวันนี้ ขยับขึ้นจาก 95.628 ในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยดัชนีดอลลาร์เพิ่งร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ 95.470 ในวันศุกร์ ดอลลาร์อยู่ที่ 112.41 เยนในวันนี้ ขยับขึ้นจาก 112.35

เยนในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยดอลลาร์เพิ่งร่วงลงแตะ 111.90 เยนในระหว่างวัน ก่อนจะดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยูโรอยู่ที่ 1.1408 ดอลลาร์ในวันนี้ ร่วงลงจาก 1.1423 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวัน

ศุกร์ โดยยูโรเพิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 14 เดือนที่ 1.1445 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ปอนด์อยู่ที่ 1.3004 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ ร่วงลงจาก 1.3025 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์

โดยปอนด์เพิ่งขึ้นไปแตะ 1.3030 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันเป็นอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ถ้อยแถลงของเจ้า

หน้าที่ธนาคารกลางบ่งชี้ว่า อีซีบี, BOE และธนาคารกลางแคนาดาจะคุมเข้มนโยบายการเงิน

(-) ผลสำรวจชี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนฟื้นตัวในเดือนมิ.ย. ผลสำรวจของภาคเอกชนพบว่า ภาคการผลิตของจีนขยายตัวอีกครั้งในเดือนมิ.ย. โดยขยายตัวในอัตราสูงสุดใน

รอบ 3 เดือน หลังจากที่หดตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดสั่งซื้อใหม่ และการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวเล็กน้อย แต่แม้ว่าตลาดขานรับการฟื้นตัวของภาคการ

ผลิต แต่บริษัทต่างๆก็ไม่ต้องการกักตุนสต็อกใหม่ เนื่องจากความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบปีนี้ท่ามกลางมาตรการขั้นเด็ดขาดของรัฐบาลเพื่อจัดการกับความเสี่ยงจากภาระ

หนี้ และทำให้ภาวะทางการเงินเข้มงวดขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMl) ภาคการผลิตของไคซิน/มาร์กิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.4 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่าง

การขยายตัวและการหดตัว นักวิเคราะห์ 25 คนในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนี PMl อาจอยู่ที่ระดับ 49.5 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 49.6 ในเดือนพ.ค.ซึ่งเป็นการหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน

Back to top button