ทนายIFECถอนตัวฟ้องปลดพนง.กลางคัน เหตุไม่เคยได้รับเอกสารจาก”หมอวิชัย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (3 ก.ค.) ศาลศาลแรงงานกลางได้นัดสืบพยานครั้งแรกกรณีที่พนักงานบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC จำนวน 24 คน ซึ่งร้องเรียนกรณีถูกให้ออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานเป็นครั้งแรก

โดยก่อนหน้านี้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยแล้ว 3 รอบ แต่ IFEC ส่งเพียงทนายตัวแทนมาทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้ ส่งผลให้พนักงานได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตกงานเป็นเวลากว่า 8 เดือน ซึ่งการนัดสืบพยานครั้งแรกนี้ นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ และกรรมการบริษัทต้องมาให้การต่อศาลฯ แต่ก็ยังมอบหมายให้ทนายความมาเช่นเดิม

ล่าสุด ทนายความที่เป็นตัวแทนของ IFEC ได้ตัดสินใจขอถอนตัวจากคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาได้ขอเรียกเอกสารและหลักฐานการกล่าวหาพนักงาน ซึ่งถูกปลดออกจากบริษัทไปหลายรอบ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ตัวแทนทนายต่อไปได้ ทั้งนี้ศาลแรงงานได้นัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 22 สิงหาคม 2560

“เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า การปลดพนักอย่างไม่เป็นธรรม และมีการเล่นการเมืองภายในบริษัทฯ ซึ่งพวกเราพร้อมสู้อย่างถึงที่สุด เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับพวกเราที่ถูกสั่งปลดออกจากพนักงานอย่างไม่เป็นธรรม”อดีตพนักงาน IFEC กล่าว

 

ด้าน นายประจักษ์ รัศมี ทนายความตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยของ IFEC เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จัดทำหนังสือและส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมไปยังสำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณาเพื่อขอให้เร่งตรวจสอบการจัดประชุมของ IFEC ภายใต้การบริหารงานของ นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 และการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560

โดยการประชุมดังกล่าวใช้วิธีการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการ ด้วยวิธีการเทคะแนน หรือ Cumulative Voting ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในไอเฟค จำนวน 27,170 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 20 เม.ย.60) ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

“เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 มีการดำเนินการจัดประชุมเลือกกรรมการไอเฟคโดยรวบรัด เมื่อฝ่ายผู้ถือหุ้นรายย่อยและเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ก.ล.ต. ที่เข้าร่วมประชุมได้อภิปรายโต้แย้งคัดค้าน ฝ่ายผู้บริหารก็พยายามบ่ายเบี่ยงรวบรัดการประชุม โดยอ้างว่าได้ดำเนินการจัดประชุมชอบด้วยกฎหมายแล้ว

อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ให้มีการเลือกตั้งตามวิธี Cumulative  Voting เพื่อให้รายชื่อฝ่ายที่ตนเสนอได้รับเลือกเป็นกรรมการบริษัท โดยครั้งนั้นมีนายธวัช ไทรราหู อ้างตัวว่าเป็นที่ปรึกษาบริษัทยืนยันว่าได้ดำเนินการชอบด้วยกฎหมายแล้ว หากผิดกฎหมายเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบ” นายประจักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในหนังสือเชิญประชุมฯ ได้ระบุวิธีการลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกกรรมการคือให้นับหนึ่งหุ้นเป็นหนึ่งเสียง (ตามข้อบังคับบริษัท) แต่เมื่อลงคะแนนจริง กลับเปลี่ยนเป็นให้ลงคะแนนโดยวิธี Cumulative Voting ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ส่งเอกสารและวีดิทัศน์มอบให้กับสำนักงาน ก.ล.ต.ด้วย