สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ก.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของไตรมาส 3 โดยตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน รวมทั้งรายงานที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิตในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,479.27 จุด พุ่งขึ้น 129.64 จุด หรือ +0.61% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,429.01 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด หรือ +0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,110.06 จุด ลดลง 30.36 จุด หรือ -0.49%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้น เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากมีรายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 383.41 จุด ซึ่งเป็นการปิดบวกวันแรกในรอบ 5 วันทำการ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,475.31 จุด เพิ่มขึ้น 150.19 จุด หรือ +1.22% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,195.72 จุด เพิ่มขึ้น 75.04 จุด หรือ +1.47% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,377.09 จุด เพิ่มขึ้น 64.37 จุด หรือ +0.88%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก เป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ สืบเนื่องจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของกิจกรรมภาคการผลิตของจีน
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 64.37 จุด หรือ +0.88% ปิดที่ 7,377.09 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ซึ่งเป็นสถิติช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 5 ปี หลังมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐปรับตัวลดลง และแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐปรับตัวลงเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 47.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 49.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุด ในรอบเกือบ 8 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 23.1 ดอลลาร์ หรือ 1.86% ปิดที่ระดับ 1,219.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 53.5 เซนต์ หรือ 3.22% ปิดที่ 16.092 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 20.30 ดอลลาร์ หรือ 2.19% ปิดที่ 906.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.75 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 842.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1360 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1410 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2939 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3002 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7654 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7680 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.39 เยน จากระดับ 112.42 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9639 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9598 ฟรังก์สวิส