BANPU เจ้าสาวกลัวน้ำ

ราคาหุ้นของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้ผลิต-ค้าถ่านหินและทำโรงไฟฟ้ารายใหญ่ คือว่าเป็นหุ้นที่พร้อมจะร่วงลงเสมอ ตามประสาหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ ที่นักลงทุนมีนิสัยร่วมชอบ “ขายหมู” มากกว่าขายควาย


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ราคาหุ้นของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้ผลิต-ค้าถ่านหินและทำโรงไฟฟ้ารายใหญ่ คือว่าเป็นหุ้นที่พร้อมจะร่วงลงเสมอ ตามประสาหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ ที่นักลงทุนมีนิสัยร่วมชอบ “ขายหมู” มากกว่าขายควาย

สถานการณ์ที่ราคาร่วงแรงตลอด 7 วันทำการที่ผ่านมานับแต่ 29 มิถุนายนเป็นต้นมา จนถึงช่วงปิดตลาดเช้าวานนี้ จากระดับ 17.40 บาท มาที่ 15.51 บาท หรือ 10.91% สู่จุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน …ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

ไม่ใช่เพราะสัญญาณเทคนิคขึ้น “อีกา 7 ตัว” หรือเพราะว่า ถ่านหินราคาร่วงหนัก…แต่เพราะน้ำท่วมในจีน

นักวิเคราะห์หลายสำนัก พร้อมใจออกมารายงานเหมือนนัดแนะ แถมบรรยายเรื่อยเจื้อยว่า กรณีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ 11 มณฑลทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นเส้นทางโลจิสติกส์สำคัญในการนำเข้าถ่านหินจากตอนใต้ขึ้นเหนือ กระทบต่อความต้องการใช้หินโดยตรง และเป็นปัจจัยลบต่อ BANPU เพิ่มเติมจากผลกระทบของราคาถ่านหินที่ยังอ่อนแอในระยะยาวและการปรับสมมติฐานค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น อาจจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

ข้อมูลดังกล่าว ฟังดูดีมีเหตุผล เพราะหากดูจากข่าวสารน้ำท่วมของจีนในปีนี้ ที่ว่ากันว่าหนักสุดในรอบ 60 ปี บนพื้นที่ 11 มณฑลทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน มีประชากรที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมแล้ว 15 ล้านคน มีบ้านเรือนเสียหาย 1.8 หมื่นหลัง และพื้นที่ทำการเกษตรเสียหายถึง 9.8 พันล้านไร่ ถือว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ

การวิเคราะห์เรื่องน้ำท่วมในจีน มีอิทธิพลถึงขั้นที่นักลงทุนพากันเฉยเมยข้อเท็จจริงที่ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 จะยังคงดีขึ้นอย่างเลิศหรู เพราะคาดจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 2,500 ล้านบาท เท่ากับโตขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 281 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 1,434 ล้านบาท โดยเป็นผลจากปริมาณถ่านหินของบริษัทและทิศทางราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่ได้ปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นของโรงไฟฟ้าหงสา และการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง

หากใช้สูตร let profit run หรือกำไรดันราคาอย่างเป็นไปเอง…กำไรสุทธิครึ่งแรกของปีนี้รวมกัน ที่คาดว่าจะมากถึง 3,934 ล้านบาท มากกว่ากำไรตลอดปี 2559 ที่มีเพียงแค่ 1,677.12 ล้านบาท หรือ 97.66% ราคาหุ้น BANPU ควรจะวิ่งขึ้น มากกว่าวิ่งลงแรงอย่างที่เกิดขึ้นใน 7 วัน….กับเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจริงแค่ไหน

ยิ่งไปกว่านั้น นักวิเคราะห์บางสำนัก ยังไปขุดเรื่องคร่ำคร่าบนห้องมาแถมพ่วงอีกว่า BANPU ความเสี่ยงที่สำคัญ คือ คดีความที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าหงสา ที่ดำเนินมาอยู่ในช่วงการตัดสินของศาลฎีกา

ก่อนที่มโนนึกของเหล่านักวิเคราะห์จะทำให้ราคาหุ้นถูกถล่มต่ออย่างเลยเถิด ผู้บริหารของ BANPU ก็ออกมาจากรูหลืบมาสกัดข่าวลือ…แม้จะช้าไป 3-4 วันอีกตามเคย

ข้อมูลที่ชี้แจง ตรงกันข้ามกับนักวิเคราะห์บอกกล่าว ชนิดสุดชั่ว..ไปไหนมา สามวาสองศอก..กันเลยทีเดียว

ไม่รู้ใครพูดโกหก ใครพูดความจริง

นางสมฤดี ชัยมงคล ซีอีโอใหญ่ของ BANPU ออกมาชี้แจงว่า ธุรกิจถ่านหินของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้ของจีนในขณะนี้ เนื่องจากการขายถ่านหินในจีนไม่ได้พึ่งพาระบบราง แถมยังสามารถดำเนินการผลิตถ่านหินได้อย่างต่อเนื่อง

ในทางตรงข้าม ผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ กลับทำให้ราคาถ่านหินปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาถ่านหินคุณภาพมาตรฐานขยับสูงขึ้น 20 หยวนต่อตัน เป็น 592 หยวนต่อตัน ทั้งในตลาดภายในของจีนและในตลาดโลก เนื่องจากจีนต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ เขื่อน Three Gorges Dam และเขื่อนเก้อโจวป้า ที่ลดลงค่อนข้างมาก

ล่าสุดเขื่อนทั้ง 2 แห่งที่ว่าต้องลดระดับการระบายน้ำ เพื่อบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหินมากขึ้นในระยะนี้

สำหรับประเด็นการจำกัดการนำเข้าถ่านหินของจีน บริษัทฯ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการนำเข้าถ่านหินที่ประเทศจีนของบริษัทฯ เกือบทั้งหมดนำเข้าผ่านท่าเรือขนาดใหญ่

ชี้แจงอย่างนี้ ราคาหุ้น BANPU บ่ายวานนี้ เลยขยับตัวจากจุดต่ำสุดเล็กน้อย…กลับมายืนปิดที่ 15.60 บาท

ที่รีบาวด์เล็กๆ นี่ ไม่รู้ว่าเพราะยังเชื่อคำชี้แจงไม่สนิทใจ หรือว่า ยังสับสนว่าจะเชื่อข้างไหนดี…

อิ อิ อิ

Back to top button