เส้นทางนักลงทุน : เปิดโผหุ้นขึ้นแรงเดือน มิ.ย.60

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” มีการรวบรวมข้อมูลบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประจำเดือนมิถุนายน 2560 มาให้นักลงทุนทราบว่ามีบริษัทไหนที่ราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นแกร่งกว่าดัชนี หลังได้รับอานิสงส์ทางตรงและทางอ้อม


ข่าวดีเข้ามาในช่วงเดือนมิถุนายนที่มีทิศทางบวกจากปัจจัยภายในที่หนุนจากความชัดเจนการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลัง จากครึ่งปีแรกที่ภาครัฐเน้นด้านการเมืองมากกว่า ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในอนาคต ที่จะมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวขึ้นประกอบกับช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ยังคงได้รับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบการเงินในไตรมาส 2 ปี 60 ด้วย

ผลดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นบนกระดานของหลายๆ บริษัทมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นไทยทั้งเดือนที่ปรับตัวขึ้น 0.84% โดยเทียบจากดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,561.66 จุด (31 พ.ค. 60) มาอยู่ที่ 1,574.74 จุด (30 มิ.ย. 60) หรือบวกไป 13.08 จุด

ขณะที่หุ้นที่สามารถปรับตัวขึ้นแรงเกิน 10% ได้แก่ GJS, GSTEL, ASAP, RS, BROCK, MATI, ASIAN, MPIC, SEAFCO, MACO, IHL, ECL, BAT-3K, BAFS, CSP, JMT, LEE, TCCC, EA, PYLON, AH, GC, PATO, PSL, TKS, PAP, PM, DTAC, RCL, SIRI, LPN, AOT, ERW, OGC และ CCP ตามลำดับ

ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง 5 อันดับแรก พบว่าสามารถขึ้นกว่า 25% ที่สำคัญ 1 – 2 อันดับแรกกลายเป็นหุ้นกลุ่มเหล็ก นักลงทุนมองว่าความต้องการใช้เหล็กในไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากกิจกรรมการก่อสร้างเป็นหลัก โดยเฉพาะการใช้เหล็กในการก่อสร้างโครงการภาครัฐนั่นเอง

สำหรับอันดับแรกราคาหุ้นดีดตัวขึ้นแรงเป็น บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ GJS โดยราคาหุ้นวันที่ 31 พ.ค. 60 ปิดที่ 0.34 บาท ขณะที่วันที่ 30 มิ.ย. 60 ปิดที่ 0.52 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 52.94% จากที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นส่วนหนึ่งเป็นการเข้าเก็บหุ้นของผู้บริหาร นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 60 ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

อันดับสองบริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ GSTEL โดยราคาหุ้นวันที่ 31 พ.ค. 60 ปิดที่ 0.33 บาท ขณะที่วันที่ 30 มิ.ย. 60 ปิดที่ 0.47  บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 42.42% อาจเป็นการเข้าเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคอยู่ในช่วงขาขึ้น และที่สำคัญอาจรับปัจจัยหนุนต่อจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 60 พลิกมีกำไรแข็งแกร่ง

อันดับสาม บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASAP โดยราคาหุ้นวันที่ 31 พ.ค. 60 ปิดที่ 5.50 บาท ขณะที่วันที่ 30 มิ.ย. 60 ปิดที่ 7.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 40.91% เนื่องด้วยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากการเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขานรับศูนย์ ASAP Auto Park ใช้เงินลงทุน 150-160 ล้านบาท คาดเปิดบริการไตรมาส 1 ปี 61

อันดับสี่ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS โดยราคาหุ้นวันที่ 31 พ.ค. 60 ปิดที่ 9.55 บาท ขณะที่วันที่ 30 มิ.ย. 60 ปิดที่ 12.70 บาท บวกไป 3.15 บาท หรือขึ้นไป 32.98% เป็นความคาดหวังถึงผลกำไรเติบโตดีขึ้น อันเป็นผลมาจากธุรกิจ Health & Beauty โดยคาดว่ารายได้ธุรกิจ Health & Beauty ในไตรมาส 2 ปี 60 จะมีประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 60 ที่มีรายได้ 200 ล้านบาท โดยคาดว่า RS จะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 60 อยู่ที่ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/60 ที่มี 47 ล้านบาท

อันดับห้า บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) หรือ BROCK โดยราคาหุ้นวันที่ 31 พ.ค. 60 ปิดที่ 2.60 บาท ขณะที่วันที่ 30 มิ.ย. 60 ปิดที่ 3.28 บาท บวกไป 0.68 บาท หรือขึ้นไป 26.15% เป็นการเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคเป็นขาขึ้น

ส่วนรายละเอียดตัวเลขราคาหุ้นที่เหลือดูได้จากตารางประกอบ

นั่นก็หมายความว่า หุ้นดังกล่าวยังคงเป็นหุ้นที่นักลงทุนจับจ้อง เข้าไปลงทุนอยู่ตามช่วงจังหวะที่เหมาะสม!!

Back to top button