ใหญ่กว่าเสี่ยยักษ์ลูบคมตลาดทุน

“เสี่ยยักษ์” วิชัย วชิรพงศ์ ไลน์มาเชิญให้ผมไปร่วมงานวันเกิดเมื่อเสาร์ที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา


ธนะชัย ณ นคร

 

“เสี่ยยักษ์” วิชัย วชิรพงศ์ ไลน์มาเชิญให้ผมไปร่วมงานวันเกิดเมื่อเสาร์ที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา

งานจัดขึ้นที่อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก

ปีนี้ เสี่ยยักษ์ ครบ 5 รอบ หรืออายุ 60 ปีแล้ว

ธีม (Theme) ของงาน หรือชื่องานนั้นใช้ว่า “ใหญ่ กว่า เสี่ยยักษ์” นอกจากไปร่วมแสดงความยินดีแล้ว ทั้งผมและอีกหลายคนจึงอยากรู้ว่า ในสายตาของเสี่ยยักษ์นั้น ใครบ้างที่เขามองว่าใหญ่กว่าตัวเขา

งานนี้มีบรรดาเซียนหุ้น นักเลงหุ้น รายย่อยมาร่วมงานกันเยอะมาก

อาจมากกว่า 1 พันคน

ผมลองนับพอร์ตของแต่ละคน แล้วนำมารวมๆ กัน น่าจะสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงได้ซัก 1-2 สาย

การร่วมงานในวันนั้น ก็ยังทำให้นึกถึงภาพยนตร์ที่ย้อนไปยังยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้

เวลามีงานสำคัญของเจ้าสำนัก (ใหญ่ๆ) ก็จะมีตัวแทน นำโดยหัวหน้าก๊วนต่างๆ พร้อมศิษย์ร่วมสำนักหรือร่วมแก๊ง-ก๊วน มาแสดงความยินดีกันคับคั่ง

งานนี้ก็เช่นเดียวกัน

บรรดาเซียนแต่ละกลุ่มมากันพร้อมหน้า

เช่น “เสี่ยป๋องวัชระ แก้วสว่าง พร้อมคณะ นัดกันใส่เสื้อสีชมพู สีน้ำเงิน สกรีนบนอกว่า loso billionaire

“เจ๊ศรีฟ้า” ศรีฟ้า แจ่มวุฒิปรีชา หรือ มาม่าบลู ก็มา

นอกนั้น ก็จะมี “เสี่ยจึง” วิชัย จึงทรัพย์ไพศาล, เสี่ยปิง-ฐิติ กิตติพัฒนานนท์, แล้วก็เสี่ยหนุ่ม เสี่ยไฮ้ ส้มตำ (คอนแวนต์) เสี่ยต่อ จากฝั่ง บล.เอเซีย พลัส และเซียนหุ้นอีกหลายๆ คน

ทว่าไฮไลต์ของงานอยู่ที่เซียนหุ้นที่ได้รับเชิญจากเสี่ยยักษ์ขึ้นทอล์คบนเวทีนั่นแหละ

เซียนเหล่านี้ เสี่ยยักษ์มองว่า “ใหญ่กว่าเขา”

เริ่มด้วยขาใหญ่ที่ไม่มีคำว่า “เสี่ย” นำหน้า คือ “นเรศ งามอภิชน” เซียนหุ้นพันล้าน บอกเคล็ดลับการเล่นหุ้น ดูปัจจัยพื้นฐาน งบการเงิน และหากศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตลาดผันผวน

แถมแนะตัวหุ้นเล็กๆ น้อยด้วยว่า ชอบ BTS

เซียนคนต่อมาคือ “เสี่ยปู่” สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ที่เล่าว่าเริ่มจากนำเงินเปียแชร์มาลงทุน และนั่งรถเมล์ไปเล่นหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ

ส่วนหุ้นที่ชอบคือ WHA และ SAWAD

อย่างหุ้น SAWAD ก่อนที่จะเข้าตลาดฯ ผู้บริหารมานั่งคุยกับเสี่ยปู่ด้วย และมีคำแนะนำกลับไปว่า ให้ลดราคาไอพีโอลงมาหน่อย (ขายไอพีโอ 6.90 บาท)

ส่วนหุ้นตัวอื่นๆ ก็ชอบบริษัทที่มีสินทรัพย์เยอะๆ

ระหว่างที่เสี่ยปู่พูด ทางเสี่ยยักษ์ก็มีการพูดแซวขึ้นไปบนเวทีเป็นระยะๆ

คนถัดมาคือผู้หญิงร่างเล็ก “หมอฝน” ครับ

หมอฝน หรือ พญ.นราทิพย์ กันนิกา พอร์ตหุ้นหลักร้อยล้าน จากเริ่มเล่นหุ้นมีเงินเพียง 3 หมื่นบาท กระทั่งมาร์เก็ตติ้งแนะนำว่า เอาเงินไปกินข้าวเหอะ

หมอฝนบอกครับว่า ไม่มีเงิน แต่อยากรวย เพื่อเอาเงินไปช่วยสังคม

ส่วนเทคนิคการเล่นหุ้น จะฝึกฝนด้วยตนเอง และหุ้นที่ซื้อจะต้องมีมูลค่าต่ำกว่าราคาที่แท้จริง

นพ.ธำรงโรจน์ เต็มอุดม เป็นอีกเซียนหุ้นที่ขึ้นมาทอล์ค

หลักของเซียนคนนี้คือ การลงทุนคือชีวิต ชีวิตคือการลงทุน และมีสไตล์การเล่นหุ้นที่เสี่ยยักษ์ให้คำแนะนำ

อย่าเล่นหุ้นคนเดียว อย่าคิดเอง เออเอง อย่าตอบคำถามคนเดียว และลงทุนได้ในทุกสภาวะตลาด และนำประสบการณ์จินตนาการ มาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

“บอย ท่าพระจันทร์” ก็เป็นอีกคนที่หลายคนรอฟังเขา

อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย เป็นเซียนพระชื่อดัง หลังประสบความสำเร็จเรื่องพระ ก็อยากเป็นเซียนหุ้นบ้าง

คุณบอย มี “เสี่ยป๋อง” เป็นไอดอลครับ

คุณบอย บอกว่า สมัยยังไม่รู้จักเสี่ยป๋อง ก็สงสัยว่า “อ้วนนี่เป็นใคร” ทำไมหลายคนถึงรู้จักเขา และคิดว่า “อ้วนนี่” ท่าทางจะเป็นคนขี้โม้

แต่ต่อมาเขาก็ได้รับคำแนะนำเรื่องหุ้นจากเสี่ยป๋องเยอะมาก

เช่น หุ้นตัวไหนที่คิดว่าไม่ดีแล้ว ก็ให้ขายซะ

เซียนพระและหุ้น คนนี้แนะว่า อย่าคิดว่าว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่นๆ หรือคนอื่นโง่กว่าเรา

ส่วนคนสุดท้ายไม่ใช่เซียนหุ้นครับ แต่ถูกเชิญขึ้นบนเวทีด้วย เขาคือ ”เสี่ยตัน” หรือ ตัน ภาสกรนที

คุณตัน บอกว่า เขาไม่ได้เล่นหุ้น แต่เมียเล่น และเวลาซื้อหุ้นไม่ได้สนใจว่า ราคาอยู่ที่เท่าไหร่ แต่มองว่าราคาจะไปที่เท่าไหร่ พร้อมกับพูดถึงการทำธุรกิจว่า โฟกัสให้ดีว่าเราจะทำอะไร

สุดท้ายคือ เสี่ยยักษ์ นั่นเอง ที่จะพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักลงทุน

“เราจะต้องสู้แม้กำลังฝัน”

ทั้งหมดนี้คืองาน Diner Talk & Birthday Party “ใหญ่ กว่า เสี่ยยักษ์”

เป็นงานชุมทางเซียนหุ้น จริงๆ

 

Back to top button