คุณค่าบริษัท : CHG โตได้อีก!

มีการวิเคราะห์กันว่าช่วงไตรมาส 2 ปี 60 ของ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG จะสามารถทำกำไรสุทธิ 142 ล้านบาท พลิกกลับมาโต 22.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังติดลบต่อเนื่องมาสองไตรมาสก่อนหน้า


โดยมีปัจจัยหนุนมาจาก 1) รายได้ค่ารักษารวมที่คาดโตราว 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้กลุ่มเงินสดที่คาดโตราว 7-8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หลังสถานการณ์ฝนตกที่มาเร็วกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และรายได้กลุ่มประกันสังคมที่คาดโตราว 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนผู้ประกันตนลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้น

และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นคาดสูงขึ้นจาก 29.2% ในช่วงไตรมาส 2 ปี 59 เป็น 32.0% หลังเกิดการประหยัดต่อขนาดจากมีผู้ป่วยมาใช้บริการเพิ่มขึ้น อีกทั้งช่วงไตรมาส 2 ปี 59 ยังมีมาร์จิ้นต่ำหลังต้องรับรู้ต้นทุนของ รพ. ใหม่และส่วนต่อขยายรพ. เดิม รวมทั้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเตรียมบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจ รพ.

ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปี 60 คาดผลดำเนินงานจะเติบโตดีทั้งจากช่วงครึ่งแรกของปี และจากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะเข้าสู่ High Season ซึ่งมีผู้ป่วยมารักษาด้วยโรคตามฤดูกาลสูง อาทิ โรคไข้หวัด โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปาก เป็นต้น ซึ่งเมื่อบวกกับ ตั้งแต่ 1 ก.ค. จะเริ่มรับรู้ผลบวกจากสำนักงานประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายจากเดิมปีละ 1,460 บาทต่อคน เป็น 1,500 บาทต่อคน

อีกทั้งยังมีโอกาสได้ค่ารักษาผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูง (Adj RW≥ 2) เพิ่มขึ้น เนื่องจากมี รพ.จุฬารัตน์ 3 เป็น Supra Contractor ที่สามารถรับรักษาผู้ป่วยที่ส่งต่อ มาจากสถานพยาบาลอื่นที่ไม่สามารถรักษาได้ จึงคาดทำให้ CHG มีศักยภาพทำกำไรที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ปี 2560 คงคาด CHG จะมีกำไรสุทธิ 656 ล้านบาท โต 16.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และโตต่อ 10.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในปี 2561 จากรับรู้การปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายประกันสังคมเต็มปี และการคงนโยบายคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด

ดังนั้นจากบทวิเคราะห์สัมผัสได้ว่า CHG จะยังคงรักษาระดับกำไรในปี 60 ได้ดีอย่างช่วงที่ผ่านมาแน่นอน!

โดยผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา CHG สามารถทำกำไรสุทธิเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างปี 2556 ถึงปัจจุบัน โดยในปี 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิ 414.38 ล้านบาท ต่อมาในปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 480.62 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 538.38 ล้านบาท ส่วนในปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 564.29 ล้านบาท และในไตรมาส 1 ปี 60 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 152.86 ล้านบาท

สะท้อนให้เห็นว่าพัฒนาการความสามารถในการทำกำไรสุทธิดีขึ้นเรื่อยๆ จากมีผู้ป่วยภายในและภายนอกเข้ามารักษาเพิ่มขึ้น

ขณะที่นักวิเคราะห์บล.เออีซี คาดว่าจากผลกำไรที่คาดพลิกโตอีกครั้งตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี 60 บวกกับ ราคาหุ้นยังมี Upside 11.6% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2560 ที่ 2.70 บาท พร้อมคาดให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 1.7% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. น.ส.กรรณิกา พลัสสินทร์ 1,994,750,400 หุ้น 18.13%
  2. นายอภิรุม ปัญญาพล 1,127,189,050 หุ้น 10.25%
  3. นางกอบกุล ปัญญาพล 932,656,600 หุ้น 8.48%
  4. นายณรัณ รติพาณิชย์วงศ์ 775,393,100 หุ้น 7.05%
  5. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล 399,655,300 หุ้น 3.63%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายเกรียงศักดิ์ พลัสสินทร์ ประธานกรรมการ
  2. นายกำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ
  3. นายอภิรุม ปัญญาพล กรรมการ
  4. นายวิชิต ศิริทัตธำรง กรรมการ
  5. นายสุชาย เหล่าวีรวัฒน์ กรรมการ

Back to top button