PF หั่นเป้ายอดขายปีนี้เป็น 1.45 หมื่นลบ. หลังกำลังซื้อยังชะลอตัว
PF หั่นเป้ายอดขายปีนี้เป็น 1.45 หมื่นลบ. จากเดิม 1.66 หมื่นลบ. หลังตลาดอสังหาฯ-กำลังซื้อยังชะลอตัว
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ายอดขายรวมในปีนี้ลดลงเหลือ 1.45 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับลดเป้าหมายยอดขายเป็นครั้งที่สองในปีนี้จากเดิมที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายเมื่อต้นปีที่ 1.83 หมื่นล้านบาท เพราะภาวะของตลาดอสังหาริมทรัพย์และกำลังซื้อยังคงชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยชื่อว่าจะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ประกอบกับในช่วงครึ่งหลังของปีนี้การทำการตลาดและการขายจะมีระยะเวลาที่น้อยกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงเดือน ต.ค.จะมีพระราชพิธีสำคัญที่อาจส่งผลให้กิจกรรมอื่นๆ ต้องหยุดไปชั่วคราว และในช่วงปลายปีก็สามารถทำการขายได้เพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ทำให้แนวโน้มของยอดขายในปีนี้ไม่สามารถเป็นไปตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี และส่งผลให้ยอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรกทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยที่ 6 พันล้านบาท
สำหรับการกระตุ้นตลาดของบริษัทในช่วงไตรมาส 3/60 ได้เตรียมออกแคมเปญ “Double Pack Sale”ในรูปแบบ “แพ็คคู่สุดคุ้ม” ด้วยแพ็คคู่ 2 ยูนิต ราคาพิเศษสำหรับห้องแรก โดยเตรียมจัดงานที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ในวันที่ 27 ก.ค. -2 ส.ค. 60 โดยจะนำ 10 โครงการที่อยู่ระหว่างขายเข้าร่วมแคมเปญ
โดยเบื้องต้นคาดจะสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 200 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 4 ล้านบาทต่อยูนิต ส่วนสต็อกของบริษัทในปัจจุบันมีมูลค่ารวมในหลักพันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท
ขณะที่การเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ มูลค่า 1.52 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 7.93 พันล้านบาท และโครงการแนวราบอีก 5 โครงการ มูลค่า 7.31 พันล้านบาท
โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทเปิดโครงการเฉพาะบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์รวม 6 โครงการ มูลค่า 4.74 พันล้านบาทส่วนมูลค่ายอดขายรอโอนในปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 3.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังราว 2 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการหาบริษัทนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์เข้ามาช่วยขายโครงการของบริษัทให้กับลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีบริษัทนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยบริษัทขายและช่วยขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศตั้งแต่ปี 59 ที่ผ่านมา
โดยในปี 59 ได้เน้นการขายให้กับลูกค้าประเทศสิงคโปร์ และไต้หวัน ส่วนในปีนี้จะเน้นการขายให้กับลูกค้าชาวจีนมากขึ้น เพราะลูกค้าชาวจีนมีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้จะเน้นไปที่การกระจายความเสี่ยง โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีธุรกิจใหม่ที่ไม่ใช่การพัฒนาบ้านและคอนโดมิเนียม แต่ยังอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถขายออกไปได้ในทันทีหลังจากพัฒนาแล้วเสร็จ โดยยังไม่สามารถให้รายละเอียดของธุรกิจดังกล่าวได้
ส่วนการขายหุ้นทั้งหมดในสัดส่วน 65% ที่บริษัทถือในโครงการดาราฮาร์เบอร์ ให้กับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มูลค่า 291.75 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะสามารถบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาในช่วงไตรมาส 3/60 ราว 130 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้มาจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทและนำไปลงทุนในโครงการอื่นๆ ต่อไป