เดี๋ยวจะโดนหนัก!

*ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องจั่วหัวแบบ “จัดหนัก จัดเต็ม” เพื่อทำให้พวกผู้บริหารสีเทารู้ว่า เที่ยวนี้ทุกหน่วยงานไม่ได้มาเล่นๆ เพราะต้องการให้คนเหล่านั้นยอมสยบแทบเท้าแต่โดยดี ส่งผลให้เรื่องในวงการตลาดหุ้นไทยออกไปในแนวบู๊ล้างพลาญ จนต้องมีคนกระเด็นออกจากตำแหน่งสำคัญไปหลายราย หรือแม้กระทั่งปรากฏชื่อถูกปรับเงินจนหลังอานพะยะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องจั่วหัวแบบ “จัดหนัก จัดเต็ม” เพื่อทำให้พวกผู้บริหารสีเทารู้ว่า เที่ยวนี้ทุกหน่วยงานไม่ได้มาเล่นๆ เพราะต้องการให้คนเหล่านั้นยอมสยบแทบเท้าแต่โดยดี ส่งผลให้เรื่องในวงการตลาดหุ้นไทยออกไปในแนวบู๊ล้างพลาญ จนต้องมีคนกระเด็นออกจากตำแหน่งสำคัญไปหลายราย หรือแม้กระทั่งปรากฏชื่อถูกปรับเงินจนหลังอานพะยะค่ะ

*โดย 2 คดีหลักๆ ที่สำนักงาน ก.ล.ต. ออกโรงเพื่อมาเล่นเอง โดยไม่ต้องใช้แสตนด์อินคือ คดีลงโทษทางแพ่งกับอดีตผู้บริหาร  NPP และผู้ถือหุ้นใหญ่รวม 2 ราย ได้แก่  “สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย” กับ  “รินนภา คุณะวัฒน์สถิต”  หลังซื้อหุ้นและชักชวนให้บุคคลอื่นซื้อหุ้น และวอร์แรนต์ ซึ่งเป็นการอาศัยข้อมูลภายใน หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ “อินไซด์” จึงโดนปรับเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท และต้องส่งคืนผลประโยชน์อีก 7 ล้านกว่าบาท “โมนิก้า” ถึงไม่ต้องแฉอะไรเพิ่มเติม เพราะ พวกนี้ถูกจับตามานาน และในที่สุดก็ถูกเช็กบิลจนได้เจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นตัวแสบอย่าง CWT เห็นขยันปั่นโปรเจ็กต์ แต่สุดท้ายก็โดน ก.ล.ต. เรียกไปปรับทั้งยวง เพราะดันไปจ่ายเงินให้กับบริษัทที่มีปัญหา โดยที่บริษัทของตัวเองไม่ได้รับประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ความซวยเลยมาเยือนกันทั้งก๊วนอย่างรวดเร็ว “วีระพล ไชยธีรัตต์” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งผู้บริหารที่ถูกประทับตราบาปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนจีน พร้อมกับมีกระแสข่าวว่า กำลังมีการขุดคุ้ยข้อมูลของบริษัท คู่ขา..อุ๊ย คู่ค้า มีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง..งานนี้บอกได้ทันที สนุกแน่!

*เช่นเดียวกับในรายของโบรกเกอร์จอมฉกน้องใหม่ของวงการตลาดหุ้นไทย ก็ใช้ยุทธวิธีไล่กวาดต้อนมนุษย์ทองคำให้เข้ามาอยู่ในคอกตัวเองอย่างหนักหน่วง แต่สุดท้ายก็ไม่สัมฤทธิผลเหมือนอย่างที่คาดหวัง เพราะเอาเข้าจริงก็มีราคาคุยโม้ไปวันๆ และคนที่ได้ประโยชน์จริงก็มีแต่พวกขาใหญ่ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่มีแต่คนสบประมาท เจ๊ น. จะไปได้สักกี่น้ำ หลังทุกคนเห็นแล้วว่า  สังกัดเก่าดีกว่าเยอะ! แถมกลุ่มผู้บริหารมีคดีฟ้องร้องกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน  เขาถึงเม้าท์กันให้แซ่ดว่า เจ๊งตั้งแต่อยู่ในมุ้ง! จริงหรือไม่..ลองถาม ก.ล.ต. คิดอย่างไรกับเคสนี้เจ้าค่ะ

*ย้อนกลับมาดูบรรยากาศการลงทุนกันบ้างดีกว่า เพราะสภาพโดยรวมยังไม่มีอะไรจรรโลงจิตใจ ดัชนียังแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ในกรอบเดิม นักลงทุนกลุ่มต่างๆ ยังเน้นการเล่นสั้นๆ ดัชนีถึงออกลูกแทงกั๊ก ไม่เลือกทางเดินใดทางเดินหนึ่ง เมื่อวันศุกร์ดัชนีถึงลงเอยที่ระดับ 1,573.51 จุด ลบไป 1.77 ด้วยมูลค่า 4.39 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่นักลงทุนเห็นจนชินตาแล้วนะจ๊ะ

*ส่วนที่แปลกตาไปจากเดิม “โมนิก้า” ลองโฟกัสไปที่หุ้นน้องใหม่ BGRIM ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงซื้อที่มีเข้ามาไม่ขาดสาย ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 18.90 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 3.82 พันล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นช็อตของการไหลตามน้ำ เพราะราคาเป้าหมายที่แมงลือเม้าท์กันไว้เที่ยวนี้อยู่แถว 20 บาท แมงเม่าต้องติดตามดูให้ดีๆ นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AOT วิ่งขึ้นมาปิดที่ 51.25 บาท บวกไป 0.75 บาท  ด้วยมูลค่า 2.15 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ได้รับผลบวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น บวกกับการเปิดประมูลให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินดอนเมือง ทุกคนเลยจินตนาการต่อไปว่า สนามบินสุวรรณภูมิน่าจะดุเดือดมากกว่านี้ จึงกระโจนเข้ามาไล่ราคาล่วงหน้าเท่านั้นเองค่ะ

*รายที่น่าจับตามองเดี๊ยนคงต้องยกให้ TOP ในระหว่างวันเคาะราคากันสนั่น จนราคาพุ่งขึ้นมาปิดที่ 84 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.10% บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นโพสิชั่นที่น่าสนใจมากๆ เพราะเป็นการขึ้นแบบมีวอลุ่มซัพพอร์ต  บวกกับหุ้นมีการซึมซับรับข่าวร้ายๆ ไปมากพอสมควร จึงไม่มีอะไรต้องวอรี่อีกต่อไปนะจะบอกให้

*หุ้นอีกตัวที่ต้องหยิบยกขึ้นมาพูด คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก BAT-3K หลังกลุ่ม “ขอไพบูลย์” ประกาศขายหุ้น 43.90% ให้กลุ่ม “ฮิตาชิ เคมิคอล” ในราคาหุ้นละ 275 บาท หุ้นถึงพุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 271 บาท บวกไป 22 บาท หรือ 8.80%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย  570 ล้านบาท  “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่มาวูบเดียวเลิก คนที่เข้าทีหลังต้องระวังดอยไว้บ้างเหมือนกัน เดี๋ยวจะหาว่า คนน่ารักไม่เตือนเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ก็อยากให้แฟนคลับหันมาดู BCH กันอีกสักรอบ หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 14.10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 270 ล้านบาท พร้อมกับทำนิวไฮในรอบ 5 เดือน “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า นี่เป็นเกมที่เล่นกันรอบใหม่ โดยใช้มุกเรื่องผลประกอบการเป็นตัวบิ้วท์อารมณ์  บวกกับมีการเคาะนำราคาแบบสมจริงสมจัง วันนี้ถึงมีแต่คนพูดว่า follow buy นะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่หุ้น ASAP เพื่อเป็นการเตือนสตินักเล่นให้รู้จักถอย และพยายามอย่าฝืนธรรมชาติของหุ้นที่มาด้วยสตอรี่ growth ท้ายสุดก็ต้องโดนเทขายทำกำไรเป็นธรรมดา “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่เห็นราคาหุ้นทรุดลงมากองที่บริเวณ 7.30 บาท ลบไป 1.90 บาท หรือลงไป 20.65% ด้วยมูลค่า 242 ล้านบาท เพราะมันไม่มีมุกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นอารมณ์นักเล่นแล้วนะซี

Back to top button