สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ก.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) หลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐรายนี้ เปิดเผยกำไรร่วงลงในไตรมาส 2 ขณะราคาน้ำมันที่ร่วงลงก็ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,580.07 จุด ลดลง 31.71 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,472.54 จุด ลดลง 0.91 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,387.75 จุด ลดลง 2.25 จุด หรือ -0.04%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.3% ขณะที่ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.5% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 1.2%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่น่าผิดหวัง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 3.91 จุด หรือ -1.02% ปิดที่ระดับ 380.16 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันที่ 12,240.06 จุด ลดลง 207.19 จุด หรือ -1.66% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,117.66 จุด ลดลง 81.56 จุด หรือ -1.57% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.91 จุด ลดลง 34.96 จุด หรือ -0.47%
สำหรับภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.9%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลง เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) หลังจากที่ดัชนี FTSE 100 ปิดทำสถิติสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยภาวะซื้อขายเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรปที่ถูกกดดันจากแรงเทขาย หลังนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 34.96 จุด หรือ -0.47% แตะที่ 7,452.91 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีฟุตซี่ปรับตัวขึ้น 1%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ หลังบริษัทปิโตร-โลจิสติกส์ออกรายงานคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนนี้ ก่อนที่การประชุมโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 45.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 48.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงราว 2.1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงราว 1.7%
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนก.ย.
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1678 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1625 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3001 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2976 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงที่ระดับ 0.7921 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7961 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.07 เยน จากระดับ 111.87 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9440 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9515 ฟรังก์สวิส และปรับตัวลงแตะ 1.2534 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2568 ดอลลาร์แคนาดา
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 6 หลังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ระดับ 1,254.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 11.2 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 16.457 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 937.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 3.25 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 844.35ดอลลาร์/ออนซ์
ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.2%