ด่วนที่สุด! EARTH ยื่นศาลฯขอเข้าแผนฟื้นฟูกิจการแล้ววันนี้

ด่วนที่สุด! EARTH ยื่นศาลฯขอเข้าแผนฟื้นฟูกิจการแล้ววันนี้ หลังผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน-หนี้สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ-หนี้หุ้นกู้


บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 ได้มีมติอนุมัติเรื่องการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทตามที่บริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้บรรดาหนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ หนี้หุ้นกู้ และหนี้กับสถาบันการเงินอื่นๆ ซึ่งในบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหมด เจ้าหนี้สถาบันการเงินรายหนึ่งได้เรียกให้บริษัทชำระหนี้ที่ค้างอยู่ตามเงื่อนไขการให้สินเชื่อ ซึ่งบริษัทไม่สามารถชำระหนี้ดังกล่าวตามที่ถูกเรียกร้องมาได้ ส่งผลให้บริษัทถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทุกแห่งที่บริษัทใช้อยู่

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจของบริษัท และส่งผลให้การประกอบธุรกิจของบริษัทมีการชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้คู่ค้าของบริษัทหลายรายได้เริ่มดำเนินการใช้บรรดาสิทธิเรียกร้องต่อบริษัทเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการเรียกร้องบรรดาค่าเสียหายอื่นๆ จากบรรดาคู่ค้าของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการประกอบธุรกิจของบริษัท ส่งผลให้บริษัทอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน ซึ่งบริษัทจำเป็นที่จะต้องดำเนินการหาแนวทางในการปรับโครงสร้างหนี้ที่ดีที่สุดเพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อบรรดาพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัท

จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อเป็นการรักษาธุรกิจของบริษัทให้สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ตามปกติ และเพื่อรักษามูลค่าทางธุรกิจของบริษัทไว้ และเพื่อป้องกันให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อบรรดาพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัท คณะกรรมการบริษัทจึงเห็นสมควรให้บริษัทเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้โดยอาศัยวิธีการฟื้นฟูกิจการตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เพื่อการนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลางในวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 และอนุมัติให้บริษัทเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ

ซึ่งในกรณีเช่นนี้ หากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งตั้งบริษัทเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ บรรดาอำนาจ หน้าที่ในการบริหารจัดการกิจการและทรัพย์สินของบริษัทจะตกเป็นของบริษัทในฐานะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อบริษัทมีความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการประการใด บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไปโดยทันที

นอกจากนี้บริษัทยังมีมติแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ลาออก 2 ท่าน และแต่งตั้งประธานกรรมการแทนประธานกรรมการที่ลาออกโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป คือ

2.1 นางสาวภารดี เตียววณิชกุล เป็นกรรมการบริษัท แทน นางสาวกาญจนา จักรวิจิตโสภณ

2.2 นายวิเชฎฐ์ เทียนทอง เป็นกรรมการบริษัท แทน นางธัญกมล ตริตระการ

2.3 นายวิเชฎฐ์ เทียนทอง ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ แทน นายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์

2.4 มติแต่งตั้งกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท ดังนี้

1. นายวิเชฎฐ์ เทียนทอง ประธานกรรมการ

2. นายขจรพงศ์ คำดี ประธานกรรมการบริหาร

3. นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ

4. นายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์ กรรมการ

5. นายพิรุฬห์ พิหเคนทร์ กรรมการ

6. นายพิพรรธ พิหเคนทร์ กรรมการ

7. นายพิบูล พิหเคนทร์ กรรมการ

8. นางสาวภารดี เตียววณิชกุล กรรมการ

โดยกําหนดอำนาจกรรมการลงนามผูกพันบริษัท เป็น “ นายขจรพงศ์ คำดี นายพิรุฬห์ พิหเคนทร์ นายพิสุทธิ์ พิหเคนทร์ นายพิพรรธ พิหเคนทร์ นายพิบูล พิหเคนทร์ นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ นางสาวภารดี เตียววณิชกุล นายวิเชฎฐ์ เทียนทอง กรรมการ สองในแปดคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกัน และ ประทับตราสำคัญบริษัท ”

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ก.ค.60 EARTH มีการแจ้งข้อมูลผ่านตลาดฯ ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 58(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สั่งให้บริษัทจัดทำการตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) เกี่ยวกับการทำรายการจ่ายเงินล่วงหน้าค่าสินค้า และค่าจองสิทธิในการซื้อสินค้า

โดยให้ผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีขนาดใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่ง (Big 4) เป็นผู้ดำเนินการ และให้ส่งผลการตรวจสอบต่อก.ล.ต. พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการรอการเสนอราคาจากสำนักงานสอบบัญชี จึงยังไม่สามารถส่งรายงานผลการตรวจสอบต่อก.ล.ต.ได้ตามกำหนดเวลา 30 วัน จึงได้ขอขยายระยะเวลาในการนำส่งรายงานผลการตรวจสอบต่อก.ล.ต.อีก 30 วัน หรือภายในวันพุธที่ 23 ส.ค.60

สำหรับที่มาของคำสั่งให้จัดทำ Special Audit นั้น มีสาเหตุมาจากกรณีที่ก่อนหน้านี้ EARTH ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าได้ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน และค้างชำระหนี้สถาบันการเงิน ซึ่งทำให้เข้าเงื่อนไขผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ และมีหนี้สินที่คาดว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งรวมมูลหนี้ทั้งหมดประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของสินทรัพย์รวมทั้งหมด

Back to top button