1,580 จุด (ครั้งที่4)
*การทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นไทยวานนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์เอามากๆ เพราะเป็นการปรับตัวขึ้นเหนือความคาดหมาย หลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,581.42 จุด บวกไป 4.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.61 หมื่นล้านบาท พร้อมกับวิ่งทะลุแนวต้าน 1,580 จุดได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 4 มันเป็นสถานการณ์ที่เกิดจากน้ำมือกองทุนขี้ตืดที่ขันอาสากลับมาเป็นเจ้าภาพหลักเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*การทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นไทยวานนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์เอามากๆ เพราะเป็นการปรับตัวขึ้นเหนือความคาดหมาย หลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,581.42 จุด บวกไป 4.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.61 หมื่นล้านบาท พร้อมกับวิ่งทะลุแนวต้าน 1,580 จุดได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 4 มันเป็นสถานการณ์ที่เกิดจากน้ำมือกองทุนขี้ตืดที่ขันอาสากลับมาเป็นเจ้าภาพหลักเจ้าค่ะ
*แม้ผู้เล่นหลักอย่าง ฝรั่งตาน้ำข้าว กับปอบผีฟ้า จะหันมาเทขายหุ้นหนักๆ ผสมโรงกับแมงเม่าแบ่งขายหุ้นทำกำไรออกมาบางส่วน แต่เมื่อประเมินสถานการณ์ในช่วงสั้นๆ ไม่มีอะไรเลวร้ายหนักกว่าเดิม กองทุนขี้ตืดจึงฉวยโอกาสดันหุ้นสุดลิ่มทิ่มประตู ซึ่งเป็นบรรยากาศที่พบเห็นได้เป็นประจำในวันที่ตลาดหุ้นยังไร้ทิศทางที่ชัดเจน เดี๊ยนถึงสนับสนุนให้แมงเม่าเทขายหุ้นต่อไปเมื่อดัชนียกตัวสูงขึ้นไงล่ะค่ะ
*เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยมีหน้าที่ทำกำไรให้ได้ทุกวิธีทาง ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นดีสุดๆ หรือช่วงที่ตลาดหุ้นเลวร้ายสุดๆ มักจะเปิดโอกาสให้คนที่เกาะติดสถานการณ์ได้หาเงินเป็นค่าขนมเป็นประจำ และการดีดตัวของดัชนีในเที่ยวนี้ก็ทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ผู้เล่นกลุ่มสถาบันถึงเข้าเล่นหุ้นเป็นช่วงๆ หุ้นถึงพุ่งแรงบ้าง ลงแรงบ้าง ไงล่ะค่ะ
*ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอหันมาดูเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นกับ ADVANC บางดีกว่า เพราะเป็นหุ้นที่ฟื้นคืนสภาพได้เร็วที่สุดตัวหนึ่ง จากช่วงต้นปีราคาหุ้นยืนอยู่ที่บริเวณ 149 บาท ล่าสุดราคาหุ้นขึ้นมายืนที่ระดับ ระดับ 191 บาท บวกไป 2.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.84 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นอย่างช้าๆ ในทิศทางขาขึ้น จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจสุดๆ ตัวหนึ่งนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ PTTGC หากนักเล่นอ่านแพตเทิร์นของหุ้นเป็นแบบ w-shape ได้ก่อนใครเพื่อน วันนี้คงนั่งตีขิมอย่างสบายใจ เพราะวงรอบของหุ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่อไปในทางวนเวียนบนกรอบ 68-70 บาท แต่ถ้าดูยาวขึ้นมานิดหนึ่งจะเห็นว่า หุ้นกำลังพยายามไต่ระดับขึ้นไปยืนแถว 75 บาทอีกรอบ ขณะที่ล่าสุดหุ้นปิดที่ระดับ 70.75บาท บวกไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่า 1.56 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ออกได้ทั้งบวกทั้งลบ วันนี้ถึงขึ้นอยู่กับนักเล่นจะเฮโลไปด้านไหน?..อิอิอิ
*ส่วนที่ชัดเจน และแน่นอนสุดๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้พุ่งเป้าไปที่ PTT กับ PTTEP ดาวเด่นที่มาแบบเรื่อยๆ ไม่กระโตกกระตาก แถมในระหว่างทางมีการทดสอบแรงเทขายเป็นระยะ จนล่าสุดหุ้นตัวแม่ขึ้นมายืนอยู่ที่ 385 บาท บวกไป 7 บาท ด้วยมูลค่า 2.37 พันล้านบาท ส่วนหุ้นตัวลูกขึ้นมายืนที่ 86.50 บาท บวกไป 2.25 บาท ด้วยมูลค่า 1.44 พันล้านบาท..มันเป็นจังหวะที่ต้องตามน้ำในทันที หลังเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 50 เหรียญต่อบาร์เรลนะจะบอกให้
*เหมือนกับในรายของ IRPC ทุกคนรู้ว่า หุ้นตัวนี้มีดีอย่างไร? และผู้บริหารหนุ่มไฟแรงเฟร่อ! กำลังปั้นโปรเจ็กต์มูลค่ามหาศาลแบบเงียบๆ จึงเห็นพวกนกรู้ที่อ่านเกมขาดเข้ามาเก็บหุ้นอย่างหนักหน่วง จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 5.35 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 633 ล้านบาท “โมนิก้า” คงบอกได้แค่ว่า งานดี..มีคุณภาพ..อีกแล้วค่ะท่าน ถ้าอยากรู้รายละเอียดให้ถาม “สุกฤตย์” เองดีกว่านะตัวเอง..เดี๋ยวจะหาว่า เดี๊ยนเผือกมากเกินงามเจ้าค่ะ
*ส่วนอีกหนึ่งรายที่น่าตามกระแสมากๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ HMPRO ซึ่งมีลักษณะเป็นหุ้น growth ผสม dividend ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หุ้นพยายามยกตัวเพื่อขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นตลอดเวลา แม้ในบางจังหวะจะโดนเทขายอย่างหนักหน่วงจนไปไม่เป็นขบวน แต่สุดท้ายก็พยายามขึ้นไปทดสอบ high เดิมที่ระดับ 12.50 บาทตลอดเวลา ล่าสุดหุ้นปิดที่ 9.70 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่า 357 ล้านบาท ยังเป็นจังหวะที่พอจะเล่นได้ไหม?..ลองไปคิดกันดูนะคะ
*เม้าถึงเรื่องที่ต้องคิดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูหุ้นกระแสอย่าง CRANE สักเล็กน้อยดีกว่ามั่ง หลังจากสายสืบสองสลึงบรรยายถึงเกมโหดที่กำลังเกิดขึ้นในเที่ยวนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์อะไรทั้งสิ้น เดี๊ยนถึงไม่รู้สึกตื่นเต้นกับหุ้นตัวนี้สักเท่าไหร่? เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ไม่มีอะไรมาตั้งแต่ต้น วันนี้เคว้งคว้างเสียเหลือเกิน แถมหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 2.80 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 12% มันมีนัยจริงไหมตัวเอง?
*เหมือนกับในรายของ BA ของมันเห็นกันอย่างทนโท่ว่า ลำพังธุรกิจที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็จะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว แถมยังมีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องเสียๆ หายๆ ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ผสมผสานกับมีคนพยายามจับโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่เป็นเรื่องตลอดเวลา “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่ดูไม่สวยเอาเสียเลย อีกทั้งการทรุดตัวลงมาปิดที่ 18.20 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท ไม่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดในรอบนี้นะสิ