โบรกฯ มองกรอบดัชนีที่ 1,500-1,525 จุด ขาดปัจจัยบวกหนุน-เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
บล.โกลเบล็ก มองกรอบ SET ที่ 1,500-1,525 จุด ขาดปัจจัยบวกหนุน-เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,500-1,525 จุด เพราะขาดปัจจัยบวกสนับสนุน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้ากว่าคาด รวมทั้งการส่งออกที่เติบโตต่ำกว่าคาดมาก และการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2558 ที่ล่าช้า
ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดลงดอกเบี้ย 0.25% จาก 1.75% เหลือ 1.50% หลังมองว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่ำกว่าคาด แม้ว่าการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐจะทำได้เพิ่มขึ้น และท่องเที่ยวขยายตัวได้ดีขึ้น แต่ไม่เพียงพอที่จะชดเชยการส่งออกและการบริโภคที่อ่อนแรงในไตรมาสแรกปี 58 อีกทั้งในระยะข้างหน้ามองว่าการส่งออกยังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และโครงสร้างการค้าโลก
ส่วนปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ อาทิ การครบกำหนดนัดชำระหนี้ IMF 750 ล้านยูโรของกรีซในวันที่ 12 พ.ค.58 ซึ่งหากกรีซไม่สามารถชำระหนี้ได้มีโอกาสที่จะถูกขับออกจากยูโรกรุ๊ป อีกทั้งเป็นการบั่นทอนต่อเสถียรภาพความมั่นคงต่อเศรษฐกิจยุโรปด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรัฐบาลกรีซได้ปรับทีมเจรจาหนี้ชุดใหม่ให้เดินหน้าแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งประเมินว่าน่าจะได้ข้อสรุปทันกำหนดแต่จะมีเงื่อนไขให้กรีซต้องทำตามเพิ่มเติม เพื่อให้เศรษฐกิจยูโรโซนและกรีซเดินหน้าต่อได้
นอกจากนี้แนะจับตาการแถลงมาตรการผ่อนคลายเงินทุนไหลออกเพิ่มเติมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากที่ผ่านมาเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าและคู่แข่งด้านการส่งออก เนื่องจากธปท.มองว่าขณะนี้รัฐบาลไม่สามารถจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนรอซื้อเล่นรีบาวด์ โดยเน้นหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/58 จะประกาศออกมาดี เช่น THCOM ICHI รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น และคาดว่ากำไรไตรมาส 1/58 จะพลิกเป็นมีกำไร เช่น PTTEP,PTTGC,TOP และ BCP
ด้านนักวิเคราะห์ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในทองคำ ประเมินแนวโน้มการลงทุนทองคำในสัปดาห์นี้ว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงเนื่องมาจากแรงหนุนการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้ราคาทองคำถูกลง จึงเป็นที่น่าสนใจต่อการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ รวมถึงแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลและผลสำรวจของ Conference Board ที่ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 95.2 ในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังพุ่งแตะระดับ 101.4 ในเดือนมี.ค.เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นแรง
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยการประชุมระหว่างกรีซและรัฐมนตรีคลังที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ ขณะที่กรีซยังคงมีความขัดแย้งกับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้เกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ต้องดำเนินการเพื่อแลกกับการได้รับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และเสี่ยงต่อการหลุดออกจากยูโรโซน โดยล่าสุดนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในคณะเจรจาของกรีซที่จะเข้าเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้จากทางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยมีนายยูคลิด ซาคาโลทอส รมช.ต่างประเทศ เป็นผู้ประสานงานของคณะดังกล่าว ยังเป็นปัจจัยที่จะสร้างผลกระทบต่อราคาทองในช่วงต่อไป
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนทองคำแนะนำเปิดสถานะ LONG GOLD FUTURES ตามแนวโน้มราคาทองโลกที่มีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยให้แนวรับ 1,195-1,190 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,225-1,235 เหรียญต่อทรอยออนซ์