จุดเปลี่ยน?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากพูดถึงประเด็นการลงทุนในเที่ยวนี้มีจุดเปลี่ยนอยู่ที่เรื่องอะไร “โมนิก้า” ตอบได้ทันทีว่า ผลประกอบการต้องออกมาดีกว่าคาด หรือแย่สุดที่พอรับได้ กำไรต้องไม่ลดลงอย่างฮวบฮาบ เพราะตัวเลขดังกล่าวจะเป็นตัวเร่งให้นักลงทุนเข้ามาเก็บหุ้นเมื่อย่อตัวลงมา เดี๊ยนถึงให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวมากเป็นพิเศษ เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า มีหุ้นไม่กี่ตัวที่ทำผลงานได้ดีนะจะบอกให้

*ข้อมูลดังกล่าวทำให้ดัชนีแกว่งตัวฉวัดเฉวียนอย่างหนัก แต่ไม่เกินวิสัยที่นักเล่นจะรับได้อยู่แล้ว เพราะมูฟเมนต์ของการเล่นเที่ยวนี้พุ่งเป้าไปที่เรื่อง P/E ต่ำ และเมื่อใดที่เห็นค่าดังกล่าวพุ่งขึ้นสูงๆ มักมีการโยกเงินไปเล่นหุ้นตัวอื่นเป็นประจำ ดัชนีก็เลยขยับไปไหนได้ไม่ไกลสักที ล่าสุดเห็นยืนปิดอยู่ที่ 1,580.54 จุด บวกไป 4.09  จุด ด้วยมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพเดิมที่ทุกคนเห็นจนชินตาเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับการทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้น AOT  น้องโมมองเป็นช็อตของน้ำขึ้นให้รีบตัก ไม่มีประเด็นต้องคิดมากให้เสียเวลาเคาะขวา แต่สิ่งที่ต้องคิดมากหน่อยในจังหวะนี้คือ doji star  ดันขึ้นแผ่หลาตั้งแต่หัววัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตามองการเคลื่อนตัวของหุ้นวันนี้ให้ดี หลังหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 52.25 บาท เหลือบวกแค่ 0.25 บาท ด้วยมูลค่า 2.22 พันล้านบาท เหมือนส่งสัญญาณให้รู้ว่า ถึงเวลาพักเอาแรงสักครู่นะจ๊ะ

*ส่วนในรายของ BDMS กระชากขึ้นมาปิดที่ 19.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 1.62 พันล้านบาท แถมเป็นการกระชากขึ้นแรงวันแรกเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงมองเป็นแพตเทิร์นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต่างจากรอบก่อน วันนี้ถึงมองยอดด้านบนไว้แค่ 20 บาทก็พอ อย่าหวังอะไรที่สูงไปกว่านี้อีกเลย เพราะเที่ยวก่อนราคาหุ้นก็น็อกกลางอากาศตรงบริเวณนี้พะยะค่ะ

*สำหรับพ่อดอกมะลิ JAS พุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 8.15 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่า 625 ล้านบาท มันเป็นเกมหุ้นรอบใหม่ที่ขาซิ่งต้องตามเกมให้ทัน แถมเที่ยวนี้เป็นการเด้งขึ้นมาปิดที่ราคาสูงสุดของวัน ย่อมต้องมีอะไรที่เป็นพิเศษกว่าทุกครั้งอย่างแน่นอน งานนี้ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมากมาย เพราะเขาเริ่มเขี่ยลูกเพื่อเล่นกันหนักๆ กันแล้วนะซี

*ส่วนในรายของ INTUCH กำลังอยู่ในช่วงของเลือกทางเดิน ราคาหุ้นถึงแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ในกรอบ 58-60 บาทเป็นเวลากกว่า 2 สัปดาห์ “โมนิก้า” จึงขอแนะนำแฟนคลับว่า ตราบใดที่ราคาหุ้นยังทรงตัวอยู่ที่บริเวณดังกล่าว ไม่มีอะไรต้องวอรี่ทั้งนั้น แถมวันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 12 เท่า ก็น่าจะสบายใจมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะเป็นระดับที่มีความเสี่ยงต่ำ เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 58.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่า 518 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะลงทุนสั้นๆ อีกครั้งนะนายจ๋า

*ถ้าพูดถึงเรื่องที่ผู้เล่นต้องเลือกขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดู IRPC เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์หลายครั้งก่อนหน้านี้เป็นมาอย่างไร? วันนี้ก็น่าจะเป็นเหมือนเดิมอีกเช่นกัน บวกกับวงรอบใหญ่ๆ ของหุ้น 3 ครั้งก่อนหน้านี้ยังติดกรอบราคาด้านบนแถว 5.50 บาท เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 5.55 บาท บวกไป  0.10 บาท ด้วยมูลค่า 775 ล้านบาทน่าจะเป็นจังหวะ take profit มากกว่านะคะ

*เม้าท์ถึงหุ้นใหญ่ๆ มากพอสมควรแล้ว “โมนิก้า” ขอหันมาดูหุ้นดาวรุ่งของวานนี้อย่าง SCI สักนิดหนึ่ง หลังหุ้นเด้งสู้อย่างร้อนแรง ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 7.35 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 12.20% มันทำให้โพสิชั่นของหุ้นเปลี่ยนจากขาลงเป็นฟื้นตัวขึ้นมาในทันที ย่อมเป็นการเร้าอารมณ์ให้นักเล่นรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าจะให้ดีสุดๆ วันนี้ต้องบวกต่ออีกวัน เพื่อทำให้ทิศทางของหุ้นเปลี่ยนแปลงอย่างบูรณาการเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ TFG รีบาวด์ขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยวอลุ่มแห้งๆ ย่อมเป็นประเด็นที่ทำให้นักเล่นต้องคิดนิดหนึ่ง เพราะอาจเป็นการขึ้นแล้วลงเหมือนไม่กี่วันก่อนหน้านี้ บวกกับภาพใหญ่ของหุ้นยังอยู่ในลักษณะลาดเอียง 45 องศา ย่อมเป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เดี๋ยวจะหาว่า คนสวยมีอะไรแล้วไม่บอก..อิอิอิ

*ส่วนคนที่ชอบลุ้นระทึกเป็นประจำ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ตามกระแสหุ้น NETBAY ให้ดีเป็นพิเศษ หลังหุ้นกระชากขึ้นทำ new high ที่ระดับ 24.30 บาท บวกไป 2.10 บาท หรือขึ้นไป 9.50% ด้วยมูลค่า 127 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่บอกให้รู้ว่า กำลังลุ้นข่าวดีแบบสุดตัว พวกนกรู้ถึงกกระโจนเข้าใส่อย่างเมามัน แถมพื้นเพหลังของหุ้นตัวนี้ไม่ต่างอะไรจากเสือนอนกิน ปีนี้แวลูของหุ้นถึงเพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตาไงล่ะค่ะ