เรื่องเยอะ..ปัญหาแยะ

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน         

*บรรยากาศการลงทุนในยามที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังแกว่งตัวไปคนละทิศคนละทาง อาจสร้างความอึดอัดใจให้กับผู้เล่นไม่ใช่น้อยก็จริง แต่ก็มีผู้เล่นบางส่วนที่สามารถพลิกแพลงสถานการณ์คับขันให้กลายเป็นโอกาสทองของการลงทุนรอบใหม่ได้เหมือนกัน “โมนิก้า” จึงขอปรบมือดังๆ ให้กับความยอดเยี่ยมกระเทียมดองของผู้เล่นที่รู้จักหาหนทางในการสร้างกำไรให้กับตัวเองนะคะ

*ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่มีความจำเป็นต้องไปพูดถึงพฤติกรรมของกองทุนตัวแสบ ปอบผีฟ้า หรือแม้กระทั้งฝรั่งตาน้ำข้าวให้เสียเวลาเคาะขวา เพราะเที่ยวนี้ค่อนข้างชี้ชัดแล้วว่า money game เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งได้ ย่อมมีคนอีกกลุ่มที่ต้องเสีย และที่ต้องท่องให้ขึ้นใจในเที่ยวนี้คือ “ใครลุกช้ากว่าคนอื่น ต้องนอนค้างบนดอย” จริงหรือไม่ ลองไปคิดกันดูเจ้าค่ะ

*เหมือนกับอาการป้อแป้ของดัชนีเมื่อวันก่อน พอถึงวานนี้กลับเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,577.44 บาท บวกไป 3.77 บาท  ด้วยมูลค่า 3.58 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการ “ชิงไหวชิงพริบ” ไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อนอย่างมีนัยสำคัญ หรือแม้กระทั่งรูปแบบของการเล่นเที่ยวนี้ ยังต้องดูกันวันต่อวันก่อนเคาะหุ้น เดี๊ยนถึงมองหุ้นหลายตัวในเที่ยวนี้เป็นเพียงทางผ่านเท่านั้นเอง

*เหมือนกับกรณีของน้องเปิ้ล PLE ไล่ราคากันอย่างเมามัน ก่อนจะจบลงตรงราคา 1.54 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 10%  ด้วยมูลค่า 546 ล้านบาท มันเป็นเกมที่ถูกเซ็ตมาตั้งแต่แรก ไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน ว่ากันว่าเกมหุ้นเที่ยวนี้ถูกวางแผนจากสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง พร้อมกับนักลงทุนรายใหญ่ที่ขันอาสาทำราคาหุ้นให้เต็มตัว ช่วงนี้ถึงเห็นหุ้นเลิศสะแมนแตนเป็นพิเศษไงล่ะค่ะ

*ในระหว่างทางที่ทุกอย่างดูเหมือนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ดันมีข่าวเม้าท์ออกมาจากผู้เข้าร่วมประมูลงานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองว่า กลุ่มของน้องเปิ้ลดัมพ์ราคาเหลือแค่ 1.42 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 12% หรือเกือบ 2 พันล้านบาท จากที่กำหนดไว้ 1.60 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนว่า กลุ่มนี้อยากได้งานจนตัวสั่น และจะทำให้ผู้รับงานอีกทอดหนึ่งมีปัญหาแน่ๆ งานนี้รอดูกันต่อไปว่า จริงอย่างที่เม้าท์หรือเปล่า?

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ขาเผือกหันมามองหุ้นร้อน SVOA ตาเป็นมันกันเลยทีเดียว เพราะช่วงเช้าวิ่งตีคู่มากับรายข้างต้นอย่างสูสี ก่อนจะแผ่วปลายอย่างรวดเร็ว หุ้นถึงลงมาปิดที่ 1.70 บาท เหลือบวก 0.15 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่า ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท ทั้งที่ตอนแรกขึ้นไปถึง 1.84 บาท มันส่อไปในทางสงครามวันเดียวแบบนี้ ต้องหาทางหนีทีไล่ดีๆ นะจะบอกให้

*หากไม่สามารถหาตัวเปรียบเทียบจากกรณีข้างต้นได้ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันไปมองหุ้น IT  หลังช่วงเช้าทะยานขึ้นไปถึง 4.68 บาท ต่อจากนั้นกลับมีแรงเทขายกระหน่ำออกมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายหุ้นลงมากองอยู่ที่ 4.26 บาท ลบไป 0.18 บาท หรือลงไป 4% ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกันแบบนี้ เดี๊ยนมีคำแนะนำเดียวคือ ยอมตัดใจดีกว่านะคะ

*ส่วนในรายที่ถูกจับโยงเกี่ยวกับการฟ้องร้องอย่าง TCAP ก็ถูกกระแสตลาดหุ้นกดดันอย่างหนัก จนหุ้นรูดลงมาปิดที่ 45.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท “โมนิก้า” เข้าใจว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องของการเอาความลับลูกค้าไปเผยแพร่ภายนอก และเมื่อดูจากมูลค่าความเสียหายที่แบงก์ธนชาติถูก EARTH ฟ้องเรียก 60,000 ล้านบาท เป็นใครก็ต้องทิ้งหุ้นออกไปก่อน ส่วนรายละเอียดจริงๆ เป็นเช่นไร คงต้องรอให้แบงก์สีส้มออกมาชี้แจงสังคมด้วยตัวเอง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้มันทำให้คนส่วนใหญ่มองแบงก์แห่งนี้ไร้จรรยาบรรณเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องร้ายๆ มาเยอะพอสมควร “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอรรถรสพูดถึงเรื่องดีๆ กันบ้างดีกว่า โดยหุ้นตัวที่อยากจะพูดถึงมากสุดในเที่ยวนี้คือ VNT หลังราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะขึ้นมาทำ new high ที่ระดับ 23.30 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ด้วยมูลค่า 220 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าจะลุยต่อ เพราะวันนี้เทรดบนค่า P/E 14 เท่านั้นเองนะคะ

*ตบท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ INGRS ภายใต้การประคบประหงมของ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ น่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ในระดับหนึ่งว่า หากเทรดกับค่ายนี้ต่อไป รับรองจะมีของดีมาให้อีกแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมการตลาดชั้นเซียนที่น่าจะกำหลาบคู่ปรับได้อยู่หมัด บวกกับหุ้นตัวนี้มีราคาขายแค่ 1.33 บาท ย่อมกระตุ้นให้นักเก็งกำไรเข้ามาเล่นกันอย่างเมามันอีกต่างหาก งานนี้ถึงต้องลุ้นให้หุ้นเปิดสวยๆ เพื่อเรียกคะแนนนิยมในช่วงที่โบรกเกอร์หน้ามนจอมฉกกำลังเพลี่ยงพล้ำ..อิอิอิ