(ลุ้น)เพิ่มน้ำหนัก AOT

วันนี้ (10 ส.ค.) ต้องจับตา MSCI กัน


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร 

วันนี้ (10 ส.ค.) ต้องจับตา MSCI กัน

จะมีประกาศปรับน้ำหนักการลงทุน MSCI Thailand จำนวนกว่า 33 บริษัท

และจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 กันยายนนี้

ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ยังไม่มีบทวิเคราะห์ของโบรกฯไหนคาดการณ์หุ้น-เข้าออกเลย

นักวิเคราะห์บางคนบอกว่า หุ้นขนาดใหญ่น่าจะคงเดิม

ส่วนหุ้น สมอล์แคปอาจมีการปรับเปลี่ยน

แต่ก็อย่างว่าล่ะนักลงทุนสนใจหุ้นในกลุ่มขนาดใหญ่มากกว่า

ก่อนหน้ามีข่าวออกมาว่า หุ้นตัวเป้งๆ  บางตัวหรือมากกว่านั้น

จะถูกปรับออกจาก MSCI

ฟังแล้วก็ตกใจ

เพราะมองย้อนกลับไปหุ้นกลุ่มธนาคารอย่าง SCB KBANK BBL โดนเทขายมาตลอดทาง

เพิ่งจะมีแรงซื้อกลับจากกองทุนบ้างในช่วง 1–2 วันก่อนหน้านี้

เหตุผลที่ว่าอาจมีหุ้นใหญ่ถูกถอดมาจากมุมมองว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมา 10 วันติดต่อกัน หรือน่าจะเกือบๆ 2 หมื่นล้านบาท

เลยรีบเช็กข้อมูลอีกครั้งว่าจริงไหม จากบุคคลที่ตามเรื่อง MSCI แบบใกล้ชิด

และได้รับการยืนยันว่า “ไม่มี” แน่นอน

ต่างชาติที่ขายหุ้นกันออกมาสนุกสนานไม่เกี่ยวกับ MSCI

แหล่งข่าวยืนยัน นอนยันเลย

แต่ก็มีการบอกว่า อาจมีการปรับเพิ่มน้ำหนัก และลดน้ำหนักหุ้นในบางกลุ่มบางตัวบ้างในกลุ่มขนาดใหญ่

พร้อมกับบอกอีกว่า เช่น AOT

MSCI อาจเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น AOT ในรอบใหม่นี้

และเริ่มมีผลในวันที่ 1 กันยายนนี้

หุ้น AOT หลังแตกพาร์ ก็ย่ำฐานแถว 38–40 บาทอยู่พักใหญ่

บรรดาแฟนคลับที่ชอบเข้ามาเล่น ต่างลุ้นกันเหนื่อย เมื่อไหร่จะผ่าน 40 บาท

หลังจากผ่านเดือนเมษายน 60 ราคาหุ้นทะยานผ่านแนวต้านสำคัญที่ 40 บาท ขึ้นมาได้ และไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ

เดิมก็คิดไปว่า ราคาคงจะย่ำอยู่ 40 บาทต้นๆ นั่นแหละ

ที่ไหนได้….

ราคายังคงทะยานต่อเนื่อง อาจมีการพักตัว และย่อลงมาบ้างในบางช่วง

แต่หากดูจากเส้นกราฟ บรรดานักกลยุทธ์แนะนำว่าเป็น “ขาขึ้น” ชัดเจน

กระทั่งมาแตะระดับ 50 บาท และผ่านมาจนถึงวานนี้ปิดที่ 53.00 บาท โดยวันก่อนหน้านี้ปิดนิวไฮ 54.25 บาท

ปัจจุบัน AOT มรมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปเป็นอันดับ 2 มูลค่า 7.74 แสนล้านบาท หรือรองจากหุ้น PTT ที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 1.09 ล้านล้านบาท

การขึ้นลงของหุ้น AOT จึงมีผลต่อดัชนีค่อนข้างมาก

บรรดานักวิเคราะห์มองว่า หุ้น AOT แกร่งสุดในกลุ่ม

เหตุผลก็คือเป็นผู้ประกอบการสนามบินรายใหญ่ของไทย และได้รับผลบวกจากจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินที่เข้ามาใช้บริการ ตามการเติบโตของธุรกิจขนส่งทางอากาศ

สนามบินที่อยู่ภายใต้การบริหารของ AOT มีอยู่ 6 แห่ง

คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ และภูเก็ต

ว่ากันว่า ตอนนี้นักลงทุนมองข้ามไปยังโอกาสของ AOT ที่จะได้รับรายได้จากสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ไปแล้ว

เพราะสนามบินปัจจุบัน มีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการจนแน่นไปหมด

หลายคนบอกว่าซื้อ AOT เข้าพอร์ต ไม่มีจน หรือจะเก็บเป็นมรดกไว้ให้ลูกหลานได้เลย นอนตีพุงยาวๆ ไป

เท่าที่ดูราคาเป้าหมายของโบรกฯหลายๆ แห่ง

ต่างปรับเป้าราคาขึ้นมาต่อเนื่อง และมากกว่า 55 บาท

ที่เห็นว่ามากสุดน่าจะเป็น บล.บัวหลวง ที่ให้ราคาเป้าหมายไว้ 60 บาท ต่อหุ้น พร้อมคาดกำไรไตรมาส 3/60 (เม.ย.-มิ.ย.60) อยู่ที่ 5,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%

โอกาสของ  AOT ที่จะสร้างรายได้ และกำไร จึงมีแบบไม่จำกัด

และนั่นก็น่าจะเป็นเหตุให้ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้น AOT

นับจากต้นปี 60 ถึงวานนี้ ราคาหุ้น AOT ขึ้นมาแล้ว 36–37%

ส่วนมาร์เก็ตแคปก็เพิ่มขึ้นมาแล้ว 2.80 แสนล้านบาท

เป็นอีกปีทองของ AOT จริงๆ

Back to top button