เดินหน้าชน(กันแล้ว)

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงนี้เดินไปไหน มาไหน ก็มีแต่คนชวนคุยเรื่องจรรยาบรรณของแบงก์ธนชาตกันอย่างสนุกปาก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับ EARTH ในเที่ยวนี้ทำให้ผู้คนทั่วไปรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของบัญชีเงินฝาก ซึ่งเป็นแนวความคิดด้านลบที่ผู้คนเริ่มถามถึงระบบของสถาบันการเงินทั่วประเทศ และเรื่องดังกล่าวก็กระทบชิ่งไปยัง ธปท. ภายใต้การกุมบังเหียนของ “ดร.วิรไท” อีกด้วยนะซี

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นลุกฮือขึ้นมาทวงถามความเป็นมืออาชีพของคนในแวดวงธนาคารมีจริงหรือเปล่า? เพราะถ้าดูตามคำฟ้องที่มีการอ้างถึงความสนิทสนมของผู้บริหารแบงก์สีส้ม (ท่านไหนก็ไม่รู้) กับผู้บริหารแบงก์สีฟ้า ย่อมทำให้เห็นว่า คนบางคนพร้อมขายความลับของลูกค้าของตนเอง จนหลงลืมหลักการและหน้าที่ของตัวเองในการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่กับคนอื่นพะยะค่ะ

*ตรงนี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนรายย่อยหลายรายเริ่มรับไม่ได้ แถมช่วงนี้มีข่าวลือเล็ดลอดออกมาเป็นระรอกว่า เงินจำนวน 800 ล้านบาทที่เปิดบัญชีไว้กับแบงก์สีส้ม ได้รับการอนุมัติจาก ธปท. ให้โอนไปเข้าที่บริษัทลูกในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และธนาคารกลางของประเทศจีนก็อนุญาตให้รับโอนเงินเข้ามาเป็นที่เรียบร้อย แต่แบงก์สีส้มดันดึงเชงเรื่องโอนเงินไว้สองสามวัน จนธุรกิจถ่านหินที่ประเทศจีนมีปัญหา และนำไปสู่การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 6 หมื่นล้านบาทไงล่ะค่ะ

*งานนี้ “โมนิก้า” ไม่ได้อยู่ฝั่งใครทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่เม้าท์ในเที่ยวนี้มาจากคำพูดของชาวบ้านที่อยากเห็นทุกอย่างเดินไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่ EARTH ต้องเผชิญต่อไปก็คือเรื่องการชี้แจงมูลหนี้ภายในระยะเวลา 5 วัน และการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีพิเศษภายใน 1 เดือน หากไม่ทำตามขั้นตอนที่สำนักงาน กลต. ชี้นิ้วสั่งการลงไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ย่อมมีปัญหาตามหลังมาแน่ๆ นะจะบอกให้

*โดยเฉพาะเรื่องค้างคาใจของสังคมที่มีต่อตัว “ขจรพงษ์” ต้องใช้เวลาเคลียร์กันอีกนานเลยทีเดียว หรือแม้กระทั่งเรื่องโยกเงินไปต่างประเทศก็ต้องชี้แจงให้สังคมหายแคลงใจ ไม่ใช่เช่นนั้นจะทำให้ทุกคมองเรื่องนี้เป็นธุรกรรมอำพราง ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันมาถึงผู้ตรวจสอบบัญชี ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์ฯ เพราะดันเป็นบริษัทที่รับรองบัญชีให้กับบริษัทดังกล่าว แถมได้ชื่อเป็นบิ๊กโฟร์ของประเทศไทยแบบนี้..ชักสนุกขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะคะ

*ไม่เพียงเม่านั้น เรื่องนี้ยังเกี่ยวพันกับบอร์ดของธนาคาร KTB ซึ่งแมงลือเม้าท์กันอย่างสนุกสนานว่า “เฮียผยง” กำลังเล่นเกมการเมืองหรือเปล่า?  ถึงสั่งเบรกธุรกรรมที่เกิดขึ้นในสมัย “เฮียวรภัค” ทั้งที่ในความเป็นจริงมีก็ขั้นตอนค่อยๆ ลดวงเงินในการทำธุรกรรม เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติในการให้สินเชื่อ แต่คุณพี่พยงดันใช้วิธีเผาบ้านตัวเองแบบนี้ ผู้คนทั่วไปถึงแซวสนุกปากพะยะค่ะ

*ประกอบกับคำพูดล่าสุดที่ออกจากปากผู้บริหาร EARTH ยืนยันจะใช้เงินคืนทุกบาททุกสตางค์กับเจ้าหนี้ทุกราย หากแผนฟื้นฟูกิจการได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทาการ พร้อมกับบิ้วด์อารมณ์ผู้คนอีกครั้งว่า สามารถฟื้นธุรกิจถ่านหินกลับมาได้อย่างแน่นอน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ไม่ได้เกี่ยวกับตัวธุรกิจ แต่เป็นผลมาจากบริษัทโตเร็วเกินไปหน่อย จึงต้องใช้เงินทุนเยอะในการขยายกิจการนั้น..จริงหรือไม่? ลองไปคิดกันดู เพราะเดี๊ยนอยากให้ทุกคนมีส่วนรวมกับมหากาฬครั้งนี้นะซี…อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่อง ปะ..ฉะ..ดะ เยอะพอสมควรแล้ว “โมนิก้า” ขอย้อนกลับดูบรรยากาศการลงทุน ซึ่งทำท่าจะยืนระยะได้ดีกว่าวันก่อนๆ พอเอาเข้าจริงกลับทรุดลงมายืนอยู่ที่ 1,571.51 จุด ลบไป 5.93 จุด ด้วยมูลค่า 3.48 หมื่นล้านบาท โดยสัญญาณเทคนิคโค้งตัวลงอย่างช้าๆ เดี๊ยนมองเป็นช็อตที่ต้องลุ้นตัวโก่ง เพราะเที่ยวก่อนดัชนีเด้งกลับตรงบริเวณนี้ จึงบังคับให้เที่ยวนี้ต้องเด้งกลับอีกเช่นกัน หากไม่เป็นดังที่เกริ่นให้ฟังดัชนีมีโอกาสรูดลงไปกองแถว 1,550 อีกรอบเจ้าค่ะ

*เมื่อรูปการออกมาเป็นเช่นนี้ ย่อมเป็นแรงกดดันโดยตรงกับหุ้นบลูชิพ เพราะเป็นหุ้นกลุ่มหลักที่ช่วยประคองดัชนีได้ดีสุด แต่น่าหนักใจเหมือนกันตรงที่หุ้นกลุ่มนี้กำลังโดน take profit ตลอดเวลา ส่งผลสถานการณ์ในจังหวะนี้ถึงดูตื้อๆ ตันๆ ซึ่งทำให้แมงเม่าหันไปลงทุนในหุ้นขนาดเล็กกันเป็นจำนวนมาก ช่วงนี้ถึงมีแต่หุ้นหน้าตาแปลกๆ โผล่ขึ้นมาเยอะมากไงล่ะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องแปลกๆ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น NVD หลังมีข่าวเล็ดลอดออกมาในทำนอง “ทีทับไม่ร้อง ที..ให้รับ” ซึ่งคนที่เข้ามาเกี่ยวพันในเรื่องนี้ก็เป็น หมอหนุ่มจอมซ่า! ซึ่งถูกเม้าท์แบบเผาขนว่า มีเรื่องหุ้น PP เข้ามาเกี่ยวข้อง และหลังจากได้สมดั่งใจ กลับแอบนินทาว่าร้ายหน้าตาเฉย เรื่องเลยแดงขึ้นมาในหมู่นักเล่นขาใหญ่ งานนี้เดี๊ยนไม่โทษใครทั้งสิ้น แค่อยากบอกให้รู้ไว้ว่า เกมหุ้นแบบฉาบฉวย มักลงเอ่ยด้วยการหักหลังเป็นประจำเจ้าค่ะ