ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
สรุปตลาดภาคเช้า
ดัชนีปิดปรับตัวลดลงในภาคเช้า ในทิศทางเดียวกับตลาดรอบบ้าน โดยตลาดได้แรงกดดันจากการขาดดุลการค้าของสหรัฐ รวมถึงการเจรจาหนี้กรีซยังไม่คืบหน้า สำหรับกลุ่มที่ Outperform ในภาคเช้าคือกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นหนุน ดัชนีปิดลดลง 7.39 จุด (-0.48%) มาอยู่ที่ 1,519.35 จุด มูลค่าซื้อขาย 2.1 หมื่นล้านบาท
แนวโน้ม ภาคบ่าย
ประเมินดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัวในช่วงบ่าย เราคาดว่าแรงขายที่หนาแน่นในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินจะต่อเนื่องในภาคบ่าย จากความกังวลต่อ NPL ที่สูงขึ้น สำหรับระยะกลาง ภาพของเศรษฐกิจไทยยังไม่สดใส จากตัวเลขส่งออกที่ลดลง ทั้งจากประเด็นการเมืองภายในประเทศ และการย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติ สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ลดน้ำหนักพอร์ต เตรียมเงินสดเพื่อรอเล่นรีบาวด์
วิเคราะห์ทางเทคนิค
BKD ราคาปิด 4.06 บาท
แนวรับ 4.02 บาท แนวต้าน 4.30 บาท
แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 3.98 บาท
กราฟ BKD มีสัญญาณดีดตัวในกราฟแท่งเทียน ขณะที่ RSI โค้งตัวตัดเส้นค่าเฉลี่ยเป็น buy signal และจะส่งผลให้ราคาค่อยๆ ปรับระดับสูงขึ้น โดยอิงตามปริมาณการซื้อขายหากเพิ่มขึ้นมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 4.30 ได้ไม่ยาก แนะนำเก็งกำไร
XO ราคาปิด 5.25 บาท
แนวรับ 5.10 บาท แนวต้าน 5.60 บาท
แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 5.00 บาท
กราฟ XO ลงมาทดสอบบริเวณ 5 บาทหลายครั้ง และสามารถทรงตัวอยู่ได้ จากนั้นจะมีการดีดตัวกลับขึ้นไปได้ทุกครั้ง แต่โดยโครงสร้างยังเป็น side way ล่าสุดกราฟแท่งเทียนเกิดสัญญาณซื้อ ขณะที่ RSI เกิด Bullish Engulfing แล้ว แนะนำให้เข้าสะสม คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในไม่ช้า
เด็กแนว
– NEP หุ้นกระสอบตัวนี้ วันก่อนตั้งข้อสังเกตไปบ้างแล้วว่ามีอะไรแปลกๆ ให้ค้นหา เนื่องจากอยู่ๆ ก็มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างผิดหูผิดตา และราคาก็ยกระดับขึ้นแบบที่คนไม่ค่อยสนใจ เพราะใช้วิธีการเนิบๆ ไม่กระโตกกระตาก และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัท ตั้งแต่เดือนก่อนจากนั้นราคาหุ้นก็เดินหน้ายกล้อไม่สนใจใคร บอร์ดของบริษัทส่วนใหญ่เป็นเหล่าทหารหาญ ที่ผ่านมาผลประกอบการไม่เป็นที่น่าพอใจ อาจทำให้ผู้ถือหุ้นที่เป็นทั้งกระทรวงการคลัง เป็นทั้งนายทหารคงรมณ์เสีย และปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างเพื่อให้บริษัทกลับมามีผลงานเป็นที่ประจักษ์สายตาซะที จะว่าด้วยเรื่องการปรับองค์กร หรือปรับวิธีการบริหาร หรือจะเป็นการเสิรมด้วยธุรกิจใหม่ เช่นโรงไฟฟ้าค่ายทหาร โรงไฟฟ้าชุมชนด้วยหรือไม่นั้นต้องมาคอยดู แต่อะไรที่เกี่ยวจข้องกับคนมีสีเขียวยุคนี้น่าจับตา อาจจะมาแรงก็ได้ สำหรับผู้ถือหุ้นใหญ่มีกระทรวงคลังถือมากสุด 26% จับตาดูให้ดี ระยะหลังคลังชอบขายหุ้นออกไปให้สถาบันอื่นมาถือ ถ้ากรณีนี้หากทำการขายหุ้นให้พันธมิตรทางธุรกิจก็จะต้องได้ราคาไม่ต่ำกว่าทุน หรือไม่ต่ำกว่าพาร์ หรือไม่น่าจะต่ำกว่า 1 บาทซะด้วยซ้ำ
– ดังนั้นราคาหุ้นไม่ว่าจะมีข่าวหรือไม่ก็ควรจะกลับไปไม่น้อยกว่า 1 บาท หากมีปัจจัยบวกจริงย่อมทำให้ราคาหุ้นไปไกลกว่านี้มากโข เพราะที่ผ่านมาลงลึกเกินห้ามใจ ในอดีตเคยสูงเกิน 13 บาท จากนั้นไม่เห็นอีกเลย ตอนนี้ไม่ได้หวังไกล เอาแค่ 2 บาทก็สุดๆ กันไปแล้ว ด้านมูลค่าบริษัทน่าจะมาจากที่ดินในมือที่ยังเป็นราคาเก่าราว 248 ล้านบาทหากใช้ราคาใหม่น่าจะขึ้นอีกบาน รวมทั้งรอดูแผนในการล้างขาดทุนสะสมว่าจะทำอย่างไร ทั้งหลายทั้งปวงนี้มองดูงบการเงินแล้ว ยังไงก็ต้องเข้าสูตร เพิ่มทุน แจกวอร์เพิ่ม ได้พันธมิตร ได้โรงไฟฟ้า อะไรทำนองนั้น แต่ที่แน่ๆ กราฟกวักมือเรียก แข็งแกร่งสู้มือทำท่าจะพุ่งอีกรอบแล้ว แนะเก็งกำไรแนวต้านเต็มบาทกันไปเลย