คุณค่าบริษัท : SPVI กำไรดี

เนื่องจากบริษัทมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายปลีกให้แก่ลูกค้ารายย่อยทั่วไป (Retail) คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 83.31 ร้อยละ 84.80 และร้อยละ 82.07 ของรายได้รวมในปี 2557-2558 และปี 2559 ตามลำดับ

โดยบริษัทประกอบธุรกิจหลักเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่าย (Reseller) ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple ทั้งคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ประเภท iOS และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ Apple เป็นหลัก เพื่อที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายธุรกิจการบริการให้แก่ลูกค้า โดยมีศูนย์บริการสำหรับสินค้าภายใต้ตราผลิตภัณฑ์ Apple ในนาม Smart Bar รวมทั้งเปิดศูนย์ฝึกอบรมตามมาตรฐาน Apple

เห็นได้ว่า บริษัทเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าให้กับแบรนด์ดังกล่าว พร้อมกับประชาชนทั่วไปนิยมบริโภคอย่างล้นหลาม ทำให้ช่วยผลักดันผลประกอบการเติบโตสม่ำเสมอนั่นเอง  

ล่าสุดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 439.95 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 430.10 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายและรายได้จากการบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6.87 ล้านบาท หรือ 0.017 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 0.94 ล้านบาท หรือ 0.002 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 926.19 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 848.16 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8.93 ล้านบาท หรือ 0.022 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 2.80 ล้านบาท หรือ 0.007 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นการรักษาผลงานได้เป็นอย่างดี

สิ่งสำคัญเมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังมีความแข็งแกร่งมาก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 264.52 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 71.75 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 3.69 เท่า ถือว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทมีมากเกินพอให้เกิดทุนจม

ส่วนหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 81.92 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 379.95 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.30 เท่า แสดงว่าบริษัทปลอดจากภาระหนี้สินจริงๆ ดังนั้นไม่มีความน่าเป็นห่วง

นอกจากนี้ เมื่อนำมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่ 0.69 บาท มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 1.50 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ระดับ 1.04 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาหุ้นบนกระดานอยู่ที่ 1.02 บาท นั้นแปลว่า ราคาหุ้นในกระดานอยู่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเชื่อว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) 116,000,000 หุ้น 29.00%
2. นางเพ็ชรรัตน์ วรญาณโกศล 33,294,000 หุ้น 8.32%
3. นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล 25,311,050 หุ้น 6.33%
4. น.ส.พัชรา เกียรตินันทวิมล 5,880,400 หุ้น 1.47%
5. นายสมชาย วรญาณโกศล 5,578,400 หุ้น 1.39%

รายชื่อกรรมการ

1. นายธีระ อภัยวงศ์ ประธานกรรมการ
2. นายธีระ อภัยวงศ์ ประธานกรรมการตรวจสอบ
3. นายไตรสรณ์ วรญาณโกศลกรรมการผู้จัดการ
4. นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการ
5. นายมินทร์ อิงค์ธเนศ กรรมการ