กบไม่อยากเลือกตั้ง
คนตอบโพลล์ประเทศนี้สับสนดีจริง กรุงเทพโพลล์ชี้ว่าหลังประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญครบ 1 ปี คนส่วนใหญ่ 53% เห็นว่าการเมืองขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ 45.3% เห็นว่า กรธ.ไม่น่าจะทำกฎหมายลูกเสร็จทันเลือกตั้งตามโรดแมพ ขณะที่ 95.9% บอกว่าถ้ามีเลือกตั้งก็พร้อมออกไปเลือกตั้ง
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
คนตอบโพลล์ประเทศนี้สับสนดีจริง กรุงเทพโพลล์ชี้ว่าหลังประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญครบ 1 ปี คนส่วนใหญ่ 53% เห็นว่าการเมืองขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ 45.3% เห็นว่า กรธ.ไม่น่าจะทำกฎหมายลูกเสร็จทันเลือกตั้งตามโรดแมพ ขณะที่ 95.9% บอกว่าถ้ามีเลือกตั้งก็พร้อมออกไปเลือกตั้ง
คนไทยอยากเลือกตั้งท่วมท้นขนาดนั้น? เหลือเชื่อจัง ถ้าอย่างนั้น กรธ.ต้องเร่งทำกฎหมายลูกหรือเปล่า อะไรคือตัวบ่งชี้ว่าการเมืองดีขึ้น ในเมื่อยังไม่มีการเมือง มีแต่ระบอบคสช.
ดุสิตโพลล์ไปอีกแบบ 60.89% เห็นด้วยว่ายังไม่ควรปลดล็อกพรรคการเมือง บ้านเมืองจะได้สงบ ไม่วุ่นวาย รัฐบาลควบคุมง่าย แต่อีกคำตอบก็บอกว่ากลัวพรรคการเมืองเคลื่อนไหวกดดัน เรียกร้องความยุติธรรม อ้าว รู้นะ เกิดความไม่ยุติธรรม แต่เอาความสงบไว้ก่อน
ดุสิตโพลล์เช่นกัน บอกว่า 41.91% ไม่เห็นด้วยกับ กรธ.ที่จะยกเลิกระบบพรรคเดียวเบอร์เดียว แต่พอถามข้อเสียระบบเบอร์เดียว ก็มีตั้ง 73.28% เห็นว่าทุจริตซื้อเสียงได้ง่าย ไม่ทราบเอาเหตุผลมาจากไหน คนมันจะซื้อเสียง เบอร์ไหนก็ซื้อได้เหมือนกัน ซ้ำร้าย 68.54% บอกว่าทำให้คนเลือกพรรคมากกว่าตัวบุคคล นี่เป็นข้อเสีย?
โพลล์ยุคนี้ หลายคนไม่เชื่อ เมื่อไม่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จะเป็นโพลล์ได้อย่างไร แต่ไม่แน่ ความคิดย้อนแย้งอาจเป็นความเห็นคนไทยจริงๆ ก็ได้ โดยเฉพาะคนชั้นกลางไม่เอาประชาธิปไตย เห็นการเลือกตั้งเลวร้าย กลัวความวุ่นวาย กลัวเสรีภาพทางการเมือง แต่อีกด้านก็จำใจยอมรับ ว่าต้องมีเลือกตั้ง ไม่งั้นผู้นำโดนแบล็กลิสต์ไปไหนไม่ได้(คบได้แต่ทรัมป์) การติดต่อค้าขายกับชาวโลกก็มีอุปสรรค
ประเทศไทยมีคนจำนวนมากอยากให้มีเลือกตั้ง แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย อยากอยู่อย่างนี้ไปก่อน บ้างก็นิยมรัฐบาลทหาร บ้างก็ไม่ชอบหรอก แต่กลัวอนาคต กลัวไม่สงบ ไม่ได้ทำมาหากินบ้างก็ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะมีฐานะมีเงินเดือนประจำใครเป็นรัฐบาลก็ไม่สนใจหรือไม่ก็เป็นกลุ่มธุรกิจที่เข้าถึงอำนาจ สบายตัวแล้ว
ในภาวะอย่างนี้ กว่าจะมีเลือกตั้งก็คงปลายปี 2561 หรือยืดออกไปอีกก็ได้ เอาที่สบายใจ เพราะไม่มีหรอกที่ใครจะลุกฮือไล่ คสช.
รัฐบาลก็จะจัดอีเวนต์ทุกวันอังคาร โฆษณานวัตกรรม สตาร์ทอัพ AI ฟินเทค เลือกโชว์ตัวเลขเศรษฐกิจดีทั้งที่เศรษฐกิจจริงคนไม่มีเงินใช้จ่าย ร้านอาหารยังร้อง ว่าไก่ย่างส้มตำขายไม่ออก
“ทฤษฎีกบต้ม” ถ้าเป็นจริงตามที่ ดร.โกร่งเขียน ก็จะร้อนขึ้นช้าๆ โดยไม่มีทางโดดหนี ไม่มีวิกฤติฉับพลันแบบปี 40 แต่ธุรกิจบางส่วนจะค่อยๆ ล้มหายตายจาก
ขณะที่ทางการเมือง 3 ปีผ่านไป ความแตกแยกยังเป็นคลื่นใต้น้ำ ไม่งั้นคงไม่ห้ามเสื้อแดงเหมารถตู้มาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ ปีที่แล้ว ขนาดปิดกั้นทุกอย่าง ทำประชามติยังชนะแค่ 15 ต่อ 10 ล้านเสียง อีกปีผ่านไปถามว่ารัฐบาลแก้ปัญหาปากท้องให้คนจนคนชนบทพึงพอใจหรือยัง
ถ้ายัง จะมีเลือกตั้งได้อย่างไร เดี๋ยวพรรคเสี้ยนหนามก็ชนะถล่มทลาย หรือไม่ก็จะเป็นการเลือกตั้งที่วุ่นวาย เห็นชัดว่าใช้กลไกกฎหมายสกัดกั้นอย่างไม่ยุติธรรม
การเลือกตั้งจึงกลายเป็นอะไรที่แขวนไว้ บอกว่าจะไปให้ถึง แต่ใจจริงไม่อยากไปถึง อยากยื้อภาวะชั่วคราวนี้ไว้ให้นานที่สุด ไม่อยากไปถึงจุดที่ปัญหาปะทุ แต่ขณะเดียวกันก็ยิ่งสั่งสมปัญหาทั้งเศรษฐกิจการเมือง