YUANTA ออกโรงยันไม่มีฟอกเงิน ขู่ฟอดพร้อมเอาเรื่องใครบังอาจทำเสียหาย!
YUANTA ออกโรงยันทำงานอย่างโปร่งใส ไม่มีพฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน ขู่ฟอดพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้เผยแพร่ข้อมูล
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YUANTA เปิดเผยถึงกรณีที่ หม่อมหลวงปานเทพ เทวกุล ในฐานะผู้ถือหุ้น และผู้ประสานงานผู้ถือหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET ยื่นสำเนาหนังสือกรณีที่เรียกร้องให้สำนักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบ บล.หยวนต้า ว่า เข้าข่ายมีพฤติกรรมฟอกเงินหรือไม่ต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้น
ล่าสุด บล.หยวนต้า ชี้แจงว่า บริษัทเป็นสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งบริษัทได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด มีการนำส่งงบการเงินและรายงานข้อมูลสำคัญตามกฎหมายกำหนด และมีสำนักงาน ก.ล.ต. และสำนักงาน ปปง. มาตรวจสอบตามแผนงานอย่างสม่ำเสมอ
พร้อมทั้งยืนยันว่า บริษัทมีการทำงานอย่างโปร่งใส ไม่มีพฤติกรรมใดใดที่เข้าข่ายเป็นการฟอกเงิน และบริษัทมีนโยบาย ขั้นตอน ระเบียบการทำงานที่มีมาตรฐานเป็นไปตามกฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ จากกรณีที่ได้ตรวจสอบพบอดีตพนักงาน กระทำความผิด ระหว่างปี 2556-2559 (ก่อนการซื้อกิจการ) และปรากฏข่าวว่าบริษัทมีการร่วมกระบวนการ และอาจเข้าข่ายเป็นการฟอกเงินนั้น ไม่เป็นข้อเท็จจริงแต่อย่างใด เมื่อบริษัทซื้อกิจการ และเข้ามาบริหาร ได้ตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมด แจ้งหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำความผิด แจ้งความดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย
โดยประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวเดิมที่บริษัทเคยชี้แจงไปแล้วแต่ถูกนำเสนอใหม่ทำให้นักลงทุนสับสน จึงขอให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจว่า บริษัทไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ และบริษัทไม่มีพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายการฟอกเงินอย่างแน่นอน บริษัทพร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงาน ปปง. ในการนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจทางการเงินหยวนต้า เป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินอันดับหนึ่งในประเทศไต้หวัน อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไต้หวัน สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีมาตรการคุมเข้มในเรื่องดังกล่าวและได้ผ่านการตรวจสอบจากทุกหน่วยงานกำกับดูแลว่าบริษัทฯได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
นอกจากนี้ กลุ่มหยวนต้าขอยืนยันความโปร่งใสในการประกอบธุรกิจ มั่นใจไม่มีพฤติกรรมใดใดในการฟอกเงิน บริษัทพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ทั้งคดีอาญา และคดีแพ่งที่สร้างเรื่องทำลายชื่อเสียงของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพราะกลัวเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจ ขอให้ผู้ลงทุนมั่นใจในความเป็นมืออาชีพและความสามารถในการบริหารงาน การดำเนินงาน โปรดให้ผลงานในการบริการเป็นเครื่องพิสูจน์
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.1548/2560 ในคดีผู้ได้รับความเสียหายจาก บล.หยวนต้า จำกัด จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นางวาสนา ศรีวิตานนท์, นางสาวพูนศรี เอื้อเจริญศรี, นางเบญจลักษณ์ พินธุโสภณ, นายอำนาจ วิริยะกุล และนางสาวประไพศรี เกริกไกร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (เริ่มจาก บล.เกียรตินาคิน บล.เคเคเทรด และบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ในปัจจุบัน) เป็นจำเลยที่ 1 และนางสาวจัสมิน ดินแดง (จำเลยที่ 2) ในข้อหาละเมิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 301 ล้านบาท
โดยประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีที่มีลูกค้าจำนวน 5 ราย ของ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ร้องเรียน ว่า ถูก น.ส.จัสมิน ดินแดง พนักงานแนะนำการลงทุน (มาร์เก็ตติ้ง) ของบริษัทชักชวนให้ลงทุนในกองทุนรวม โดยเป็นการลงทุนในหุ้นมาตั้งแต่ปี 2555 หรือสมัยที่ยังเป็น บล.เคเคเทรด และแต่ต่อมาทราบว่า พนักงานผู้แนะนำการลงทุน หรือมาร์เก็ตติ้งคนดังกล่าวได้ถูกบล.หยวนต้าฯ สั่งให้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน และมารู้ความจริงในภายหลังว่า กองทุนที่ตนเองต่างใส่เงินลงไปนั้น ไม่ได้มีอยู่จริง