PACE พุ่งแรง 8% หลังปลด SP คลายกังวลผู้สอบฯไม่รับรองงบฯ

PACE พุ่งแรง 8% หลังปลด SP คลายกังวลผู้สอบฯไม่รับรองงบฯ ล่าสุด ณ เวลา 10.36 น. อยู่ที่ 2.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 8.18% สูงสุดที่ 2.56 บาท ต่ำสุดที่ 2.32 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 113.34 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.54 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ณ เวลา 10.36 น. อยู่ที่ 2.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท หรือ 8.18% สูงสุดที่ 2.56 บาท ต่ำสุดที่ 2.32 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 113.34 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.54 บาท

โดย PACE ได้กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯในภาคเช้าวันนี้ หลังถูกตลท.ขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น PACE เป็นเวลา 1 วัน เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 โดยมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 มีกำไรสุทธิ 5.31 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 640.54 ล้านบาท

ขณะที่ นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PACE เปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2/60 ยืนยันว่าเป็นกำไรจริงเกิดจากการบันทึกกำไรจากเงินลงทุนของกลุ่มอพอลโล และโกลด์แมน แซคส์ ที่ใส่เงินเข้ามาลงทุนแล้วในชุดชมวิวทำให้งบไตรมาส 2/60 พลิกมีกำไร

ขณะที่ก่อนการบันทึกมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนดังกล่าว บริษัทได้มีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกเข้ามาเป็นผู้ประเมินด้วยการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการเปิดบริการจุดชมวิว โดยมีแผนเปิดให้บริการสิ้นปีนี้ รองรับคนเข้าชมได้กว่า 3 ล้านคนต่อปี ราคาค่าบริการจะอยู่ที่ 700-800 บาทต่อคน สำหรับต่างชาติคาดว่าจะเป็นตัวสร้างรายได้ในอนาคต

 

อนึ่งวานนี้ (16 ส.ค.60) PACE ได้ทำการชี้แจงการนำส่งงบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 กรณีผู้สอบบัญชี คือ บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ไม่แสดงความเห็นต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม และแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม จากการถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์เรื่องการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว เนื่องจากบริษัทได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งหนึ่ง เพื่อทำการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด และบริษัทเพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด

โดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบันตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 เงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ายุติธรรมจำนวนเงิน 7,321 ล้านบาท และกลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ได้บันทึกเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 7,321 ล้านบาท และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 7,946.6 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากข้อจำกัดโดยสถานการณ์ ผู้สอบบัญชี ไม่สามารถให้ข้อสรุปการสอบทานรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวเกี่ยวกับการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว จากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงไม่มีการประกอบพาณิชยกิจจริงเพื่อเปรียบเทียบและเป็นธุรกิจใหม่ในตลาดของไทยจึงไม่สามารถให้ข้อสรุปผลการสอบทานต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560

ขณะที่เกณฑ์ในการให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม จากประเด็นในเกณฑ์ข้อแรก ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม ส่งผลให้ผู้สอบบัญชีไม่สามารถสรุปได้ว่า อาจมีรายการผลปรับปรุงใดๆที่อาจมีขึ้นต่องบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิ.ย.60 จึงแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม

ทั้งนี้ จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระโดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน และจากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงส่งผลให้ผู้สอบบัญชีถูกจำกัดโดยสถานการณ์จึงไม่สามารถพิสูจน์รายได้ในอนาคตหรือข้อมูลเปรียบเทียบสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงในประเทศไทยได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อประกอบสมมุติฐาน เช่น เปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมจุดชมวิว กับตึกชมวิวตามประเทศต่างๆ 9 แห่งทั่วโลก รวมถึงเทียบกับตึกใบหยกที่สูงเป็นอันดับ 2 ในไทยที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าชมตึกเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี และเปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก อีกทั้งจุดชมวิวในโครงการมหานครได้มีการออกแบบให้มีลิฟท์ที่มีความจุและเร็วที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ ซึ่งทำให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมจุดชมวิวได้มากกว่า 3 ล้านคนต่อปี ซึ่งหากสินทรัพย์มีการก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการได้บริษัทฯจะมีรายได้ตามสมมุติฐานดังกล่าว

Back to top button