AJA อึ่งอ่างเบ่งแข่งวัว
งบไตรมาส 1 ของ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA (เดิมชื่อ บริษัท คราวน์เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD พระเอกตัวจริง) ที่มีปัญหาล่าช้าเพราะผู้บริหารขัดแย้งกับผู้ตรวจสอบบัญชี ออกมาแล้ว
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
งบไตรมาส 1 ของ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA (เดิมชื่อ บริษัท คราวน์เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD พระเอกตัวจริง) ที่มีปัญหาล่าช้าเพราะผู้บริหารขัดแย้งกับผู้ตรวจสอบบัญชี ออกมาแล้ว
ความล่าช้าไป 1 ไตรมาส ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่ทำให้เลวร้ายลงมากกว่าเดิม เมื่อความจริงถูกเปิดเผยออกมามากขึ้น
จะมีอะไรอีก ถ้าไม่ใช่เพราะการขาดทุนมโหฬาร …พร้อมด้วยคำอธิบายที่ทำให้ความหวังของนักลงทุนระดับแมงเม่า…มลายไปกับสายลม และฝุ่นที่ตลบอบอวล
งบการเงินสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 ของAJA ปรากฏตัวเลขขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 126.69 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานในระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีกำไรสุทธิ 79.04 ล้านบาท ลดลงเท่ากับ 205.73 ล้านบาท หรือคิดเป็น 260.28%
หากคิดจากงบการเงินรวม จะพบว่าตัวเลขจะเลวร้ายมากกว่าเดิมอีกมาก เพราะปรากฏว่า ขาดทุนสุทธิ 210.44 ล้านบาท จากตัวเลขระยะเดียวกันปีก่อนที่กำไรสุทธิ 107.48 ล้านบาท
พิจารณาในรายะเอียดจะพบว่า การเปลี่ยนแปลงของกำไร-ขาดทุนที่เกินกว่า 20% มาจากคำอธิบายที่ผู้บริหารบริษัทระบุว่า
- รายได้รวมเท่ากับ 91 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 9.72 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.63 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี ก่อนเท่ากับ 596.19 ล้านบาท โดยรายการที่เพิ่มต่ำกว่าคาดมากมายคือ รายได้ดอกเบี้ยจากการขายผ่อนชำระ นั่นเอง
- ต้นทุนขายเท่ากับ 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.88% ต้นทุนบริการเท่ากับ 40.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.99% ต้นทุนในการจัดจำหน่ายเท่ากับ 195.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.57% (สาเหตุหลักเกิดจากบริษัทย่อย VDC มีต้นทุนในขาดทุนจากการยึดคืน “ตู้เอเจเติมสบาย” 85.64 ล้านบาท) และค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 330.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.73%
พูดง่ายๆ และสั้นๆ ได้ใจความคือ ตัวการทำให้ AJA ขาดทุนหนักมาจาก “วัวที่คาดว่าจะให้น้ำนมทองคำ” อย่างตู้ “เอเจเติมสบาย”ของบริษัทลูกคือ VDC ..กลายสภาพเป็นลูกล้างผลาญ…ไปเสียฉิบ
ที่ต้องสรุปเช่นนี้เพราะ 2 รายการสุดท้าย…ต้นทุนในการจัดจำหน่าย กับ ค่าใช้จ่ายในการบริหาร มันบอกให้รู้จุดอ่อน 2 ด้านของบริษัทลูกพร้อมกัน
จุดแรกสุด… บริษัทขายผ่อนตู้เติมสบาย มีปัญหาลูกค้าไม่ยอมผ่อนต่อ ต้องไปยึดตู้คืนมาจากลูกค้าจำนวนมหาศาล มีตัวเลขขาดทุนมากถึง 85.64 ล้านบาทในไตรมาสเดียว…ไอ้ที่ฉลองยอดขาย “เอเจเติมสบาย” 20,000 ตู้ เมื่อหลายเดือนก่อน ทำให้เกิดคำถามค้างคาใจในปัจจุบันและอนาคตว่า ….ปาหี่ หรือของจริง
อีกด้านหนึ่ง ค่าคอมมิสชั่นที่จ่ายให้กับพนังงานขายที่ปีแรกค่อนข้างสูงเพื่อสร้างยอดขายสินค้าเงินผ่อน…มีข้อสรุปคำเดียวที่เป็นอมตะคือ เซลขายรวยเละบริษัทหงายหลังตึง…เจ๊งกะบ๊ง…
งานนี้ เสี่ยนักการตลาด อมร มีมะโน ซีอีโอของAJA และ นักลงทุนขาใหญ่ชื่อดัง เสี่ยยักษ์ วิชัย วัชรพงศ์ คงถึงกับมีจุก..ยิ่งกว่าโดนเข่ากระแทกเข้าที่กลางหว่างขา..ไปอีกนาน
การเปลี่ยนชื่อ และรหัสเอาเคล็ด และสร้างแบรนด์ใหม่ จาก AJD เป็น AJA…ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ยามนี้ หุ้น AJA ที่ถูกขึ้น SP ยาวนาน เพราะไม่ได้ส่งงบไตรมาสสอง 2560 ต่อไป ก็มีคนจำนวนไม่น้อยพยายามลืมเลือนไปว่า ผลงานปีที่ผ่านมาที่เคยทำกำไรสุทธิโดดเด่นมากกว่า 300 ล้านบาท และ คำมั่นสัญญาของเสี่ยอมร มีมะโนที่ว่า ในปี 2560 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจตู้เติมเงินออนไลน์ “เอเจเติมสบาย” ซึ่งวางเป้าหมายยอดขายที่ 40,000 เครื่อง และธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) ให้บริการในรูปแบบบัตร และหรือโปรแกรมในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ……
เพราะเหตุผลว่า ทกคนทำใจเสียแล้วว่า มันเป็นแค่นิทานอีสปเก่าแก่ ….เรื่อง”อึ่งอ่างคิดเบ่งตัวให้เท่าวัว” ที่ท้ายสุดมีจุดจบคือ…..(คาดเดาเอาเอง ละกัน)
อิ อิ อิ