GL ทรุดต่อเกือบ 2% วิตกคดีบังคับขายหุ้นทอดตลาดในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่

GL ทรุดต่อเกือบ 2% วิตกคดีบังคับขายหุ้นทอดตลาดในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ ล่าสุด ณ เวลา 11.02 น. ราคาอยู่ที่ 18.30 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 1.61% สูงสุดที่ 18.50 บาท ต่ำสุดที่ 18.00 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 89.36 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดราคาหุ้นบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ณ เวลา 11.02 น. ราคาอยู่ที่ 18.30 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 1.61% สูงสุดที่ 18.50 บาท ต่ำสุดที่ 18.00 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 89.36 ล้านบาท

โดยสาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวลงในวันนี้ คาดว่ามาจากประเด็นที่มีประกาศจากสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพฯ เรื่องการขายทอดตลาดหุ้นสามัญ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ในส่วนของ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ APF จำนวน 13,395,771 หุ้น

ทั้งนี้ บริษัท A.P.F โฮลดิ้ง จำกัด (APFH) เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท GL และเป็นบริษัทในกลุ่ม APF เกี่ยวกับการขายทอดตลาดของหุ้น GL ที่ทางบริษัท APFH ได้ถือครอง โดย A.P.F. โฮลดิ้ง จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GL ในครอบครองจำนวน 158,911,191 หุ้น (10.42%) และเป็นคดีแพ่งของผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยหุ้น GL ถูกยึดครองทั้งหมดมีจำนวน 13,395,771 หุ้น คิดเป็น 0.87% ของจำนวนหุ้น GL ทั้งหมด

 

โดยมีประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 2 เรื่องขายทอดตลาดหุ้น หมายเลขแดงที่ 1136/2555 โดยห้างหุ้นส่วนจำกัดโทราเลส เป็นโจทก์ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 และนายมิทซึจิ โคโนชิตะ เป็นจำเลยที่ 2

ทั้งนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะขายทอดตลาดหุ้นของจำเลยที่ 1 ในคดีดังกล่าว ตามคำสั่งศาลรวม 6 นัด โดยนัดที่ 1 จัดขึ้นในวันที่ 6 กันยายน 2560 , นัดที่ 2 ในวันที่ 27 กันยายน 2560 , นัดที่ 3 ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 , นัดที่ 4 ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560 , นัดที่ 5 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 และนัดที่ 6 ในวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ณ อาคารอสีติพรรษ กรมบังคับคดี เลขที่ ๑๘๙/๑ ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เวลา 9.00 น.

โดยหากในการขายแต่ละนัดไม่มีการขายหรือขายไม่ได้หรือขายได้ไม่ครบทุกรายการ จะทำการขายนัดต่อไปตามกำหนดดังกล่าวเว้นแต่การขายนัดที่ 5 ถ้าทรัพย์รายการใดได้มีการงดการขายไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะงดการขายทรัพย์รายการนั้นในนัดที่ 6 ด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนต้องไปดูแลการขายทอดตลาดตามกำหนดนัดทุกครั้ง หากไม่ไปดูแลการขายจะถือว่าไม่ติดใจคัดค้านราคาที่มีผู้เสนอและไม่มีสิทธิคัดค้านราคาอีกต่อไป ทั้งถือว่าบุคคลนั้นทราบกำหนดนัดและสถานที่ขายในนัดต่อไปแล้วด้วย

อย่างไรก็ตาม กรณีทรัพย์ที่ยึดมิได้นำไปเก็บรักษาไว้ ณ สถานที่ของกรมบังคับคดีในวันขายทอดตลาดเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีหน้าที่ต้องขนย้ายทรัพย์ที่จะขายไปส่งมอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดี ตามวันเวลาและสถานที่ที่กำหนดไว้ในประกาศขาย หากไม่นำส่งจะถือว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในเวลาที่กำหนด เจ้าพนักงานบังคับคดีจะรายงานศาลขอให้มีคำสั่งถอนการบังคับคดีตามมาตรา 295 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

โดยหุ้นที่จะทำการขายทอดตลาดได้แก่ 1.หุ้นสามัญ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000216 เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น 6015699573 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จำนวน 1,000,000 หุ้น

2.หุ้นสามัญ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000217 เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น 6015699573 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จำนวน 1,000,000 หุ้น

3.หุ้นสามัญ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000218 เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น 6015699573 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จำนวน 1,000,000 หุ้น

4.หุ้นสามัญ บริษัท  กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000219 เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น 6015699573 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จำนวน 1,000,000 หุ้น

5.หุ้นสามัญ บริษัท  กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000220 เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น 6015699573 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จำนวน 1,000,000 หุ้น

6.หุ้นสามัญ บริษัท  กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000221 เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น 6015699573 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จำนวน 6,317,820 หุ้น

7.หุ้นสามัญ บริษัท  กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000169 เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น 6015699573 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จำนวน 2,077,951 หุ้น

โดยเดิมหุ้นที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้เป็นหุ้นประเภทสามัญ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เลขที่หลักทรัพย์ 07990100000124 มีชื่อ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด จำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์จำนวน 1,131,782 หุ้น หลังจากนั้นบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะนายทะเบียนหลักทรัพย์ได้แยกใบหลักทรัพย์ดังกล่าวออกไปเป็นใบหลักทรัพย์ฉบับใหม่ เลขที่ 07990100000125

ต่อมาบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิม หุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้น 0.50 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นของผู้ถือหลักทรัพย์รายนี้เปลี่ยนแปลงจากเดิมจำนวน 1,131,782 หุ้น เป็น 11,317,820 หุ้น ตามใบหลักทรัพย์ฉบับใหม่เลขที่ 07990100000144 และเปลี่ยนเป็นใบหลักทรัพย์ฉบับใหม่เลขที่ 07990100000208 และต่อมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งให้แบ่งแยกหุ้นออกเป็นหลักทรัพย์จำนวน 6 ฉบับ โดยฉบับที่ 1 ถึง ฉบับที่ 5 (ทรัพย์รายการที่ 1 ถึง 5)

ฉบับละ 1,000,000 หุ้น และฉบับที่ 6 (ทรัพย์รายการที่ 6 ) จำนวน 6,317,820 หุ้น (ในการขายทอดตลาดหลักทรัพย์จดทะเบียน เจ้าพนักงานบังคับคดีจะใช้ราคาปิดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนวันขายทอดตลาดนำมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาเริ่มต้นในแต่ละนัดทุกนัด)

ทั้งนี้ ในการขายทอดตลาดราคาเริ่มต้นเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาเริ่มต้นและราคาที่สมควรขายในการขายทอดตลาดที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะกำหนดราคาเริ่มต้นสำหรับการขายทอดตลาดแต่ละครั้งที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงสภาพทรัพย์ในปัจจุบัน ราคาซื้อขายในท้องตลาด รวมถึงความเหมาะสมประการอื่นประกอบด้วย

ทั้งนี้ในกรณีพิเศษ จะมีการปัดเศษเพื่อความสะดวกในการเสนอราคาตามประกาศคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาเริ่มต้นและราคาที่สมควรขายในการขายทอดตลาดดังกล่าว

ทั้งนี้สำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์และผู้เชี่ยวชาญการประเมินราคา ไม่มีราคาประเมินการขายทอดตลาด ส่วนราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดี รายการที่ 1-5 จำนวนรายการละ 6.45 ล้านบาท ราคาที่ 6 จำนวน 40.75 ล้านบาท และรายการที่ 7 จำนวน 11.12 ล้านบาท

ขณะที่ ราคาประเมินของเจ้าพนักงานประเมินราคาทรัพย์ กรมบังคับคดี รายการที่ 1-5 จำนวนรายการละ 590,000 บาท รายการที่ 6 จำนวน 3.73 ล้านบาท และรายการที่ 7 จำนวน 42.19 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคาต้องวางหลักประกันการเข้าสู้ราคาต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็คสั่งจ่าย สำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับเงิน หรือหนังสือค้ำประกันของธนาคารโดยไม่มีเงื่อนไจหรือใช้วิธีทำรายการผ่านระบบ ECD (Electronic Data Capture) รายการที่ 1-5 เป็นจำนวนรายการละ 50,000 บาท รายการที่ 6 เป็นจำนวน 250,000 บาท และรายการที่ 7 เป็นจำนวน 2,500,000 บาท เว้นแต่ผู้เข้าสู้ราคานั้นเป็นผู้มีสิทธิขอหักส่วนได้ใช้แทนหรือคู่สมรสที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้กันส่วนแล้ว โดยผู้ที่ซื้อไม่ได้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะคืนหลักประกันให้ทันที่หลังการขายในวันนั้น

ส่วนผู้ที่เสนอราคาสูงสุดและเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าเป็นราคาที่สมควรขายได้ แต่มีผู้คัดคัดด้านราคาเจ้าพนักงานบังคับคดีจะเลื่อนการขายทอดตลาดไปในนัดต่อไป โดยผู้เสนอราคาสูงสุดจะต้องผูกพันกับการเสนอราคาดังกล่าวเป็นระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่เสนอราคา ตามมาตรา 309 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและถือว่าทราบกำหนดนักและสถานที่ขายในนัดต่อไปแล้ว

ในกรณีผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคาเคยเป็นผู้เสนอราคาสูงสุดและไม่ชำระราคาส่วนที่เหลือในคดีนี้จะต้องวางหลักประกันพิเศษต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนเข้าเสนอราคาเป็นจำนวนห้าเท่าของจำนวนหลักประกันที่ต้องวางตามประกาศขายทอดตลาดในคดีนี้

ขณะเดียวกัน ผู้ซื้อได้ต้องชำระราคาทันที่ที่ซื้อทรัพย์ได้ เว้นแต่ทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายมีราคาสูงมากหรือมีเหตุผลพิเศษประการอื่นตามที่กรมบังคับคดีกำหนด ผู้ซื้อได้ต้องทำสัญญาซื้อขายตามแบบพิมพ์ของกรมบังคับคดีโดยให้ถือว่าหลักประกันตามเงื่อนไขการเข้าสู้ราคาให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา และผู้ซื้อจะต้องชำระเงินส่วนที่เหลือภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันซื้อเป็นต้นไป

โดยการวางเงินมัดจำและชำระส่วนที่เหลือต้องวางชำระเป็นเงินสด ถ้าเป็นเช็คต้องเป็นแคชเชียร์เช็ค หรือเช็คของส่วนราชการ องค์การ หรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งระบุ สำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับเงิน

ทั้งนี้ กรณีผู้ต้องผูกพันกับการเสนอราคาตามมาตรา 309 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งจะต้องทำสัญญาซื้อขายตามแบบพิมพ์ของกรมบังคับคดี โดยถือว่าหลักประกันตามเงื่อนไขการเข้าสู่ราคาเป็นเงินมัดจำตามสัญญาและหากในการขายนัดต่อไป เจ้าพนักงานบังคับคดีเคาไม้ขายให้แก่ผู้ต้องผูกพันราคาดังกล่าว ให้ถือว่าเงินมัดจำดังกล่าวเป็นราคาส่วนหนึ่งของการชำระราคา และจะต้องชำระราคาส่วนที่เหลือทันที หากมีผู้เสนอราคาสูงกว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีจะคืนเงินมัดจำให้แก่ผู้ต้องผูกพันราคาดังกล่าว

คำเตือนผู้ซื้อ ก่อนเข้าสู้ราคา ผู้ซื้อมีหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์ที่จะซื้อ และถือว่าผู้ซื้อได้ทราบถึงสภาพทรัพย์นั้นโดยละเอียดครบถ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้รับมอบอำนาจในการเข้าสู้ราคา ต้องส่งในมอบอำนาจต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนเข้าสู้ราคา มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นการเข้าสู้ราคาในนามตนเองซึ่งเปลี่ยนชื่อในภายหลังมิได้ และหากผู้เข้าสู้ราคาเป็นนิติบุคคลก็ต้องส่งหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท และหนังสือมอบอำนาจของกรรมการ หรือผู้จัดการของนิติบุคคลผู้มีอำนาจต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนเข้าสู้ราคาด้วย โดยผู้ใดซื้อได้ให้รื้อถอนไปหรือติดต่อกับเจ้าของที่ดินด้วยตนเอง

Back to top button