SET ลบเล็กน้อย คลายกังวลคดีรับจำนำข้าว
SET ลบเล็กน้อย! คลายกังวลคดีรับจำนำข้าว ล่าสุด ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 1,575.17 จุด ลบ 0.79 จุด หรือ 0.05% สูงสุดที่ 1,576.63 จุด ต่ำสุดที่ 1,574.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 854.18 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ 1,575.17 จุด ลบ 0.79 จุด หรือ 0.05% สูงสุดที่ 1,576.63 จุด ต่ำสุดที่ 1,574.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 854.18 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลง คาดว่านักลงทุนคลายความกังวลคดีรับจำนำข้าว ซึ่งอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ในวันนี้
โดยล่าสุดมีรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวเป็นวันที่ 27 ก.ย.60 เนื่องจากในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า ตนเองป่วยจากอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน จึงทำให้เกิดอาการวิงเวียน และส่งผลให้ยังไม่สามารถเดินทางมาที่ศาลได้
ทั้งนี้ศาลได้ออกหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากเห็นว่า เหตุผลดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ป่วยจริง ศาลจึงเห็นว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายหลบหนีคดี
ด้าน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามสำหรับตลาดหุ้นไทยคือกรณีคำตัดสินคดีจำนำข้าว 25 ส.ค.60 จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย เช่นเดียวกับคดียุบพรรคการเมืองรวมถึงคดีการเมืองอื่นๆ ในอดีต ยกตัวอย่างเช่น คดียุบพรรคพลังประชาชน เมื่อ 2 ธ.ค.2551 หุ้นไทยกลับตัวขึ้นจาก 387 จุด เป็น 392 จุด ในวันถัดมา และบวกต่อ 23% เทียบกับเดือนก่อน หลังคำตัดสิน 1 เดือน
ขณะที่ บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า SET อาจผันผวนในระหว่างการอ่านคำตัดสินศาลฯ กรณีจำนำข้าวเช้านี้ อย่างไรก็ดีเรายังมองผลของคำตัดสิน เป็น Neutral ต่อตลาด เนื่องจากคาดว่าเมื่อคำตัดสินออกมาจะมีการยื่นอุธรณ์อยู่ดี และเสถียรภาพทางการเมืองหลังคำตัดสินฯ ไม่ได้เปลี่ยนไป
อนึ่ง คดีจำนำข้าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
สำหรับข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นั้นระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 นั้นระวางโทษจำคุกเช่นเดียวกัน แต่ระวางโทษปรับที่สูงกว่า คือ 20,000 – 200,000 บาท
โดยการระวางโทษปรับดังกล่าว เป็นคนละส่วนกันกับมูลค่าความเสียหายทางแพ่ง ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งได้สรุปตัวเลขที่เกิดขึ้นคิดเป็น 20% ของความเสียหายทั้งหมดของโครงการ หรือคิดเป็นมูลค่า 3.57 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลัง ออกคำสั่งการบังคับคดีที่เป็นคำสั่งทางปกครองต่างหาก