“ยิ่งลักษณ์” หลบขึ้นเครื่องฯ ที่เขมรก่อนบินตรงสิงคโปร์

สืบเนื่องจากกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยออกไปเป็น 27 ก.ย.2560 หลังจากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมายังศาลฎีกาในวันนี้ (25 ส.ค.) โดยให้เหตุผลว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน ส่งผลให้วิงเวียนศีรษะ

ทั้งนี้ศาลฯ ได้ออกหมายจับ เนื่องจากเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่งทนายความมาแจ้งว่าไม่สามารถเดินทางมาศาลฯ ได้ แต่ไม่มีหลักฐานมาแสดงว่าป่วยจริง ศาลฯ จึงเห็นว่ามีพฤติการณ์หลบหนีคดี

โดยเว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปทำบุญกราบไหว้สมเด็จโตที่วัดระฆังโฆสิตาราม กทม. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นมีข้อมูลว่าวันที่ 24 ส.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว โดยมีรถของราชการระดับสูงพาหลบหนีไปตามเส้นทางเกาะช้างเข้าประเทศกัมพูชา

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีจำนำข้าวว่า ทราบว่าศาลได้ออกหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว และต้องติดตามตัว

ส่วนเรื่องนี้เป็นข้อบกพร่องทางการข่าวของฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขามีหลายบ้าน ไม่รู้อยู่บ้านหลังไหน และรถก็มีหลายคัน มันไม่ใช่ความบกพร่อง เราพยายามติดตามว่าเขาเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่เห็นว่าป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ก็ต้องดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งถ้าไม่มาศาลต้องออกหมายจับและแล้วแต่การดำเนินการของศาล

ทั้งนี้เมื่อถามว่ามีกระแสว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หลบหนีไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการข่าวเรื่องนี้บ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีความชัดเจน เขาเป็นอดีตนายกฯ จึงอาจจะมีคนเข้าไปช่วยเหลือ แต่ยังไม่แน่ใจ