GL แผนลึก…. ห้ามเลียนแบบ

จนถึงวันนี้ คำถามว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโทราเลส เป็นใคร? ... ยังไม่มีคำตอบ


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

จนถึงวันนี้ คำถามว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโทราเลส เป็นใคร? … ยังไม่มีคำตอบ

รู้กันแค่เพียงว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าว เป็นโจทย์ในฐานะเจ้าหนี้ของ บริษัท เอ.พี.เอฟ.โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 และนายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ฟ้องเรียกชำระค่าหนี้จากการรับจำนำหุ้นของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL เป็นหลักทรัพย์ในการปล่อยเงินกู้ให้ 

ไม่มีรายละเอียดของสัญญากู้เงินดังกล่าวว่ามีรายละเอียดหรือเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เพราะทั้งคนให้กู้และคนกู้ ไม่ใช่บริษัทหรือกิจการจดทะเบียนมหาชนในตลาดหุ้น เพียงแต่มีหุ้นของ GL เป็นหลักฐานพยานสำคัญเท่านั้น

จุดสำคัญที่เป็นประเด็นท้าทายอยู่ที่ APFH คือผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ GL และ นายมิตซึจิ โคโนชิตะ คือ ประธานกรรมการของ GL

ทำไมทั้ง APFH ถึงเอาหุ้น GL จำนวนมากถึง 13.395 ล้านหุ้น ไปจำนำ (ไม่ต้องถามว่าจำนำที่ราคาเท่าใดและดอกเบี้ยเงินกู้กี่ %) กับห้างหุ้นส่วนอะไรก็ไม่รู้ (ไม่มีใครรู้ว่าทุนจดทะเบียน เจ้าของที่แท้จริง ของห้างหุ้นส่วนดังกล่าว มีรายละเอียดอย่างไร) แล้ว…เหตุใดจึงไม่คืนหนี้เมื่อครบกำหนดชำระหรือไถ่ถอน

คำตอบอยู่ที่คนชื่อ มิตซึจิ โคโนชิตะ ผู้ซึ่งถนัดพูดแต่อนาคตที่สวยหรูของตนเองและ GL อยู่ตลอดมา…ไม่ใช่ “สาวกของ GL” ที่ถนัดกับการก่นด่า “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ในทำนอง “บัวใต้น้ำ” เช่นว่า  “….ข่าวหุ้นจะลงข่าว GL วันไหน บอกล่วงหน้าด้วยนะจะได้ขายก่อน…”  หรือ “…ทำไมไม่ปล่อยให้ ก.ล.ต. ทำหน้าที่ มันเรื่องอะไรของสื่อ…” หรือ “…มีอะไรคาใจกันนักหนาหรือ อัดกันทุกวัน…”

แล้วก็ไม่ใช่จากปลายนิ้วของนักวิเคราะห์ “บัวปริ่มน้ำ” ตะพึดตะพือ หรือสื่อเกี่ยวกับหุ้นประเภท “ขอกินเศษเนื้อข้างเขียง”

ข้อเท็จจริงจากเจ้าพนักงานบังคับคดีจะขายทอดตลาดหุ้นของจำเลยที่ 1 ในคดีดังกล่าว ตามคำสั่งศาลรวม 6 นัด นัดที่ 1 จัดขึ้นในวันที่ 6 กันยายน 2560,  นัดที่ 2 ในวันที่ 27 กันยายน 2560, นัดที่ 3 ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560, นัดที่ 4 ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560, นัดที่ 5 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 และนัดที่ 6 ในวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ณ อาคารอสีติพรรษ กรมบังคับคดี เลขที่ ๑๘๙/๑ ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เวลา 9.00 น. …..ระบุเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า ทั้ง APFH และ มิทซึจิ ล้วนหมดสภาพการเป็นเจ้าของหุ้นไปแล้ว

ราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดี รายการที่ 1-5 จำนวนรายการละ 6.45 ล้านบาท ราคาที่ 6 จำนวน 40.75 ล้านบาท และรายการที่ 7 จำนวน 11.12 ล้านบาท …ขณะที่ราคาประเมินของเจ้าพนักงานประเมินราคาทรัพย์ กรมบังคับคดี รายการที่ 1-5 จำนวนรายการละ 590,000 บาท รายการที่ 6 จำนวน 3.73 ล้านบาท และรายการที่ 7 จำนวน 42.19 ล้านบาท

ทันทีที่ข้อมูลนี้โผล่ออกมา ทางผู้บริหารของ GL … ไม่ใช่ใครที่ไหน นาย น้องชายของนายมิทซึจินั่นแหละ… ได้ออกมาชี้แจงว่า บริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด (APFH) เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท GL และมีหุ้น GL ในครอบครองจำนวน 158,911,191 หุ้น (คิดเป็น 10.42%) โดยจากข่าวดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเป็นคดีแพ่งของผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มิใช่คดีของทางบริษัท GL และไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการบริหารงานของบริษัทแต่อย่างใด

นอกจากนี้จำนวนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการขายทอดตลาดนี้คิดเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยกล่าวคือ จำนวน 13,395,771 หุ้น หรือคิดเป็น 0.87% ของจำนวนหุ้น GL ทั้งหมดเท่านั้น อีกทั้งบริษัท APFH ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวของบริษัท GLและคดีดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายอื่นแต่อย่างใด

ทั้งนี้ บริษัทขอยืนยันอีกครั้งว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเพียงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายนี้เท่านั้น ไม่มีผลกระทบต่อบริษัทและการดำเนินงานของบริษัท หรือส่งผลกระทบต่อผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นอื่นแต่อย่างใด นอกจากนี้บริษัทไม่มีหน้าที่ภาระผูกพัน หรือความรับผิดใดๆ ต่อการขายทอดตลาดดังกล่าวอีกด้วย

คำพูด 2 ประโยคอย่างนี้ คุ้นๆ หูยิ่งนัก ทำให้หลายคนคิดถึงกรณีของหุ้น EARTH เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่มีผิดเพี้ยน… คล้ายกันแค่ไหน ตรองกันเอาเองจ้าาาา

กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด มีข้อเท็จจริงหลายประการที่ชัดเจนดังนี้

– ราคาหุ้นของ GL ตกลงแรงได้ โดยไม่ต้องให้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” นำเสนอข่าว เพราะแท้จริงแล้ว “…สนิมเกิดแต่เนื้อในตน…..”

– กำไรและราคาของ GLที่ “ดูดี” (ไม่ว่าจากสาเหตุใด) เปิดช่องให้ APFH และนายมิทซึจิ ทำ LBO-leverage buyout ระดมทุนจากคนรู้จักรอบข้างมาสร้างอาณาจักรแบบ “เงินต่อเงิน” ได้อย่างสะดวกดาย จากคนอื่นๆ ที่ตกอยู่ในความมืดบอดเพราะความโลภ

– ตราบใดที่ GL ยังมีตัวเลขงบการเงินที่ดูดี ข้ออ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับวิศวกรรมด้านมืดที่แอบแฝง จะยังสามารถกระเสือกกระสนหลอกล่อเหยื่อที่ยังอยากเป็น “บัวใต้น้ำ” ต่อไปได้เรื่อยๆๆๆๆ

บาดแผลเหวอะหวะของAPFH และ มิทซึจิ โคโนชิตะ ที่สันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า อาจจะเกิดจากการ “เบี้ยวหนี้โดยเจตนา เพราะกู้เงินมา ในขณะที่ราคาหุ้น GL สูงลิ่ว โดยมีใบหุ้นเป็นหลักทรัพย์จำนำ … แล้วเมื่อราคาหุ้นร่วงหนัก ก็ลอยแพเจ้าหนี้… ที่ต้องเอาใบหุ้นมาขายทอดตลาดในราคาขาดทุน…. เป็นเกมเหนือชั้น

เข้าข่าย….. แผนทำลายล้างเจ้าหนี้ให้วายวอด… ไม่มีความสามารถ ห้ามลอกเลียนแบบ

อิ อิ อิ

Back to top button