อย่าเหลิงเกินไป
*วานนี้เป็นอีกวันที่ “โมนิก้า” พยายามครุ่นคิดประเด็นใหม่ๆ ที่จะช่วยให้นักลงทุนอ่านทิศทางตลาดหุ้นได้ง่ายขึ้น และสามารถพยากรณ์ทิศทางของตลาดหุ้นจะออกมาในแนวทางไหนได้แม่นยำขึ้น ผลปรากฏว่า ไม่มีเครื่องมือตัวไหนดีเท่ากับความมั่นใจ ซึ่งเหมือนกับกองทุนตัวแสบ ปอบผีฟ้า ผสมโรงกับแมงเม่าเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง ล้วนเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่า ตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนที่ดีเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้เป็นอีกวันที่ “โมนิก้า” พยายามครุ่นคิดประเด็นใหม่ๆ ที่จะช่วยให้นักลงทุนอ่านทิศทางตลาดหุ้นได้ง่ายขึ้น และสามารถพยากรณ์ทิศทางของตลาดหุ้นจะออกมาในแนวทางไหนได้แม่นยำขึ้น ผลปรากฏว่า ไม่มีเครื่องมือตัวไหนดีเท่ากับความมั่นใจ ซึ่งเหมือนกับกองทุนตัวแสบ ปอบผีฟ้า ผสมโรงกับแมงเม่าเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง ล้วนเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่า ตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนที่ดีเจ้าค่ะ
*ข้อมูลดังกล่าวทำให้เห็นว่า ความผันผวนของตลาดหุ้นไทยที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนบางกลุ่มพยายามเทขายหุ้นเพื่อปิดความเสี่ยงของตัวเอง ขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนบางส่วนมองถึงโอกาสในการลงทุนยังเปิดกว้างอยู่ จึงรีบกระโจนใส่หุ้นเมื่อเห็นบรรยากาศตลาดหุ้นเป็นใจ ผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมาเลยกลายเป็นว่า ดัชนีขึ้นมาปิดที่ 1,585.79 จุด บวกไป 9.94 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 3.92 หมื่นล้านบาทไงล่ะจ๊ะ
*ถามว่า “โมนิก้า” อยากโฟกัสเรื่องไหนมากเป็นพิเศษ เดี๊ยนขอตอบว่า อยากจะพูดถึงเรื่องหุ้น “ดาวเด่น ดาวร่วง” มากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ จึงต้องพุ่งเป้าไปยังหุ้นที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงๆ และต้องพูดตอกย้ำถึงหุ้นที่ทำให้นักลงทุนกระเป๋าฉีกกันบ่อยๆ เพื่อให้นักลงทุนไปทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบพะยะค่ะ
*สดๆ ร้อนๆ จนต้องพูดถึงเป็นรายแรกก็คือ IRPC มีบทสรุปที่ออกมาเป็นเปเปอร์แล้วว่า โบรกฝรั่งทุกสำนักยกให้เป็นหุ้นทีเด็ดที่ต้องมีติดพอร์ต พร้อมกับลงในรายละเอียดชุดใหญ่ว่า แผนบันได 3 ขั้นของเฮีย “สุกฤตย์” จะอัพราคาหุ้นได้อีกเยอะเลยทีเดียว เพียงแต่การวิ่งในแต่ละรอบอาจใช้เวลานานหน่อย ส่งผลให้การขึ้นมาปิดที่ 5.90 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 1.97 พันล้านบาท ยังเป็นจุดที่สะสมของได้เรื่อยๆ ..ทราบแล้วเปลี่ยน!!
*สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นกับ PTT ใช้เวลานานถึง 3 เดือนในการเด้งจากระดับ 370 บาท ขึ้นมายืนใกล้บริเวณ 400 บาท มันแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อในเที่ยวนี้มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็จริง แต่เป็นการทยอยซื้อของแบบใจเย็นสุดๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับแฟนคลับที่มีลักษณะ “ช้าแต่ชัวร์” เพราะเมื่อมองดูจากยอดเก่าที่บริเวณ 440 บาท เดี๊ยนมองว่า น่าสนใจสุดๆ พะยะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ BDMS “โมนิก้า” แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า นี่จะเป็นหุ้นห่านทองคำ! เพราะก่อนหน้านี้ตัวบริษัทมีอาการไม่ค่อยจะสู้สักเท่าไหร่ แต่จับผลัดจับพลูอีท่าไหนก็ไม่รู้ เรื่องดีๆ ก็เลยเกิดขึ้นกับหุ้นตัวนี้มากมาย แถมพรายกระซิบ ยืนยัน นั่งยัน และ นอนยัน ด้วยกันว่า ราคาปิดที่ 20.60 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 475 ล้านบาท เป็นจุดที่ลงทุนได้ชิวๆ งานนี้ใครเชื่อว่า หุ้นโรงพยาบาลจะคัมแบ็กเต็มตัว ก็ใส่ให้สุดซอยเลย..อิอิอิ
*ส่วนหุ้น “ดาวรุ่ง พุ่งนาน” แถมมีสตอรี่เด็ดมากมาย “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนนึกมากเป็นพิเศษก็คือ EA ทั้งหมดมาจากตัวเลขกำไรโต 4 ปีติด แถมปีนี้ก็ยังโตอีก และปีหน้าก็ยังโตได้อีกเช่นแถม บวกกับมีโครงการแบตเตอรี่แห่งชาติอยู่ในมือแบบนี้ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 36.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่า 754 ล้านบาท ถือเป็นจุดที่ซื้อลงทุนได้ “สบายบรื๋อ สะดือโบ๋” นะจะบอกให้
*ตรงกันข้ามกับในรายของ UV ทุกครั้งที่ “โมนิก้า” เห็นหุ้นตัวนี้ขึ้นมาเฉิดฉายบนกระดานหุ้นทีไร มักเกิดอาการหวั่นใจขึ้นเป็นประจำ เพราะหุ้นตัวนี้ชอบมาแค่แวบๆ เดือนนี้ขยับขึ้นแรง..เดือนหน้าทรุดลงหนัก จึงกลายเป็นหุ้นที่มีรอบวิ่งอยู่แค่ 7.50-9.50 บาทเท่านั้น ล่าสุดราคาหุ้นขยับตัวขึ้นมาปิดที่ 8.70 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6.75% ด้วยมูลค่า 340 ล้านบาท ก็เป็นจังหวะบวกตามสไตล์คนที่กล้าได้กล้าเสีย!!
*นอกจากนี้ยังรวมถึงหุ้น BIG จู่ๆ กระชากขึ้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ และยังมีการปั่นกระแสรอบใหม่อย่างดุเดือดเผ็ดมันแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของผู้เล่นที่อยากเล่นกับของร้อน จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปห้ามปรามอะไรทั้งสิ้น เพราะทุกคนเห็นกันอยู่แล้วว่า ลุกทีหลัง..จ่ายรอบวง การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.26 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่า 290 ล้านบาท เดี๊ยนมองจากมุมไหนด้านไหน ก็เหมาะสำหรับพวกขาลุยเจ้าค่ะ
*ส่วนหุ้นประเภทแรงดีไม่มีตก แถมตุนกำไรไว้เต็มประเป๋า ต้องยกให้หุ้น GGC ก่อนหน้านี้ขึ้นไปยืนถึงระดับ 15 บาท ต่อจากนั้นถูกถล่มเทขายจนลงมานอนแถว 13 บาท ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 514 ล้านบาท ยิ่งเพิ่มความสุดยอดขึ้นไปอีก และเป็นหุ้นที่นักลงทุนน่าจะชำเลืองตามองเป็นพิเศษ เพราะตามตรรกะที่คิดแบบเส้นตรง หุ้นต้องขึ้นไปทดสอบยอดเดิมไงล่ะค่ะ
*ตัวที่น่าจับตามากสุดอีกตัวหนึ่งก็คือ GLOBAL เด้งขึ้นแรงวันแรก ด้วยแรงซื้อที่หนาแน่น ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 13.80 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่า 106 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการ follow buy ตามแบบฉบับนักโหนกระแส แถมการเล่นเที่ยวนี้คาดหวังได้ถึง 15 บาท จึงเป็นช็อตที่ไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดสมอง เพราะวันนี้มองแค่ ไม่ขึ้น..ก็ถอยนะนายจ๋า
โมนิก้าและทีมงาน