คุณค่าบริษัท : BCH แข็งแกร่ง

และการปรับงบประมาณสำหรับค่าภาระโรคเสี่ยงที่มีค่า RW>2 ขึ้น 14.3% เป็น 640 บาทต่อคนต่อปี โดย ณ ปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆ จะได้ 1 RW ที่ 10,000 บาท มองว่าการเพิ่มงบประมาณดังกล่าว อาจจะทำให้ประกันสังคมกลับมาพิจารณาปรับขึ้นค่าภาระโรคเสี่ยง

นอกจากนี้ไข้หวัดใหญ่ระบาดตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/60 โดยจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่รวม 8 เดือนแรก เพิ่มขึ้น 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีคนไข้มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่กันมากขึ้น รวมถึงจำนวนผู้ป่วย IPD เพิ่มขึ้น และ World Medical Hospital (WMC) มี EBITDA เป็นบวกแล้ว คาดว่าในไตรมาส 3/60 นี้จะมีกำไรสุทธิ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีคนไข้ชาวจีนกว่า 80 คนมาตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลผ่าน agency ซึ่งคาดว่าจะมีเข้ามาเรื่อยๆ นับจากนี้

ส่วนการปรับปรุง รพ.ต่างๆ จะทยอยแล้วเสร็จ และพร้อมให้บริการเร็วๆ นี้ เริ่มที่ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ เดิมที่เปลี่ยนชื่อเป็น รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ และ รพ.การุญเวช รัตนาธิเบศร์เปลี่ยนมาใช้ชื่อ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ พร้อมทั้งรับโอนผู้ประกันตนมา และมีการปรับปรุงพื้นที่ไปแล้วกว่า 95%, รพ.เกษมราษฎร์ ฉะเชิงเทรา เพิ่มศูนย์ MRI และปรับปรุงพื้นที่คาดพร้อมให้บริการภายในเดือน ส.ค.นี้, รพ.เกษมราษฎร์ แม่สาย เพิ่มห้องผู้ป่วยใน 30 ห้อง คาดแล้วเสร็จเดือน ส.ค.นี้

ขณะที่ รพ.เกษมราษฎร์ สระบุรี เพิ่มห้องตรวจและปรับปรุงพื้นที่คาดแล้วเสร็จเดือน ต.ค.นี้, รพ.การุญเวช ปทุมธานี ปรับปรุง ICU และห้องคลอดคาดพร้อมให้บริการเดือน ต.ค.นี้, รพ.เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ เพิ่มศูนย์หัวใจ ER และเด็ก คาดเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ก.ย.นี้ และปีหน้าคาดว่าจะสร้าง รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง แล้วเสร็จในไตรมาส 2/61

มองว่าโครงการต่างๆ ที่จะแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปี 60 นี้ ไม่ใช่การลงทุนสร้าง รพ. ใหม่ ดังนั้นต้นทุนต่างๆ ไม่น่าจะฉุดอัตรากำไรสุทธิลงไปมากนัก

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,702.78 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,559.46 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้กิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 172.10 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 156.29 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,350.44 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,121.12 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 336.78 ล้านบาท หรือ 0.14 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 312.01 ล้านบาท หรือ 0.13 บาทต่อหุ้น

เนื่องจากรายได้คนไข้ทุกกลุ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกเร็วทำให้คนป่วยมากขึ้น โดย 1) รายได้คนไข้เงินสดเพิ่มขึ้น จากรายได้ OPD เพิ่มขึ้น เพราะจำนวนคนไข้และรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น ส่วนรายได้ IPD เพิ่มขึ้น เพราะรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น แต่จำนวนคนไข้ IPD ลดลงเล็กน้อย 2) รายได้ประกันสังคมเพิ่มขึ้น เพราะจำนวนผู้ประกันตนลงทะเบียนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 789,000 คน และรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีผู้ประกันตนมาตรวจสุขภาพมากขึ้น 3) รายได้โครงการสุขภาพถ้วนหน้าเพิ่มขึ้น

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี  มอง BCH จะเติบโตได้ดีในครึ่งปีหลัง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.40 บาท

…

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. นายเฉลิม หาญพาณิชย์  813,750,000 หุ้น 32.63%
2. พ.ญ.สมพร หาญพาณิชย์ 183,750,000 หุ้น 7.37%
3. สำนักงานประกันสังคม 133,692,000 หุ้น 5.36%
4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 115,261,787 หุ้น 4.62%
5. น.ส.พรลักษณ์ หาญพาณิชย์  83,000,000 หุ้น 3.33%

รายชื่อกรรมการ

1. นายเฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ
2. นายเฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร
3. นางสมพร หาญพาณิชย์ กรรมการ
4. นางสายฝน ชัยมงคล กรรมการ
5. น.ส.พรลักษณ์ หาญพาณิชย์ กรรมการ