แรงทุกตัว

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากดูสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่างเป็นกลางจะเห็นว่า แรงซื้อของกองทุนตัวแสบที่เข้ามาเป็นจำนวนมากก่อนหน้า พอเผลอแป๊บเดียวก็ขายหุ้นหมดภายในไม่กี่วัน ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า การขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่บริเวณ 1,530 จุดไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ วันนี้ถึงต้องลุ้นกันต่อนะจะบอกให้

*เนื่องจากการทรุดตัวลงมายืนที่ 1,614.30 จุด ก่อนจะเด้งกลับในช่วงท้ายตลาด จนสุดท้ายขึ้นมายืนอยู่ที่ 1,619.11    จุด บวกไป 0.69 จุด ด้วยมูลค่า 4.48 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการผ่อนคันเร่งก่อนเวลาอันสมควร ซึ่งทำให้รู้ว่า แรงซื้อที่เข้ามายังเป็นลักษณะเก็งกำไรสั้นๆ ไม่มีนักลงทุนรายไหนคิดจะถือหุ้นลงทุนระยะยาว มูลค่าการซื้อขายถึงเริ่มลดลงเหลือแค่สี่หมื่นล้านบาทกลางๆ ต่อจากนั้นก็คงลดลงเหลือสี่หมื่นล้านบาทต้นๆ ก่อนจะกลับสู่สภาพซื้อขายวันละสามหมื่นล้านบาทอีกครั้งนะคะ

*ประเด็นเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับไปลองนั่งทบทวนมากเป็นพิเศษเพื่อจะได้รู้ว่า การซื้อหุ้นเที่ยวนี้ต้องเจาะรายตัวจริงๆ ไม่สามารถเล่นแบบเหวี่ยงแห่เหมือนสัปดาห์ก่อนได้อีกแล้ว จึงต้องขมวดปมในการลงทุนให้ชัดเจนกว่าเดิม เพราะหุ้นที่แรงเว่อร์วังอลังการในเที่ยวนี้ มันมีทั้งหุ้นหน้าใหม่และหุ้นหน้าเก่าผสมปนเปกันไปเป็นจำนวนมากนะซี

*ก่อนจะเข้าสู่หุ้นรายตัว “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงข่าวฮ็อตของคนในแวดวงสื่อสักนิดหนึ่ง เพราะทันทีที่มีข่าวออกมาในทำนองกลุ่ม “จิราธิวัฒน์”  เข้าไปรับหุ้น NMG ต่อจากเฮีย “คีรี”  ก็มีคำถามขึ้นมากมายว่า ยังเจ็บไม่พอใช่ไหม? เพราะทุกวันนี้ก็เห็น POST ภายใต้กลุ่มทุนนายห้างเซ็นทรัลขาดทุนบานเบอะเป็นเวลาหลายปี ขณะที่ค่ายเนชั่นก็มีสถานการณ์ที่ย่ำแย่พอกัน จึงกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจไม่ใช่น้อยนะจ๊ะ

*เนื่องจากเกจิอาจารย์ดังหลายสำนักเม้าท์ตรงกันว่า ดีลดังกล่าวไม่ก่อประโยชน์อะไรทั้งสิ้น แถมที่ผ่านมาก็เคยเห็นรายการสมบัติผลัดกันชมมาแล้วหลายรอบ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ผู้คนในตลาดหุ้นให้ความสนใจเรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก เพราะมันเป็นการส่งสัญญาณการขยับตัวรอบใหม่ของกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ จึงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร? และกลุ่มคนที่ตกเป็นขี้ปากชาวหุ้นจะออกมาชี้แจงอะไรบ้าง?

*เหมือนกับในรายของ AMANAH ถูกตลาดฯ สั่งให้ชี้แจงข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่สุดท้ายกลับไม่มีอะไรในก่อไผ่ เลยถูกสั่งให้ขึ้นบัญชี Cash Balance “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องการดับความร้อนแรงของหุ้นที่มีการเข้าองค์ทรงเจ้า หลังหุ้นพุ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 1.50 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 25%  ด้วยมูลค่า 448 ล้านบาท มันเล่นเก็งกำไรจนเกินงามจริงๆ นะตัวเอง

*เช่นเดียวกับในรายของ FN กระชากขึ้นมาปิดที่ 5.05 บาท บวกไป 0.83 บาท หรือขึ้นไป 19.70% ด้วยมูลค่า 317 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้คิดเป็นเรื่องอื่นไม่ได้ นอกเสียจากดันหุ้นออกของราคาสูง เนื่องจากตัวธุรกิจยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กำลังซื้อยังมาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย บวกกับมีรายการโอเว่อร์รีแอ๊คเกิดขึ้นให้เห็นทนโท่ เลยติดคุกเงินสดไปตามระเบียบเจ้าค่ะ

*ส่วนที่ลอยลำอย่างสวยงาม “โมนิก้า” ต้องหันไปมองน้องใหม่ไฟแรงเว่อร์ III พุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 9.80 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 29.80% ด้วยมูลค่า 2.86 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจะเป็นไปได้ แต่สุดท้ายก็เป็นไปแล้ว เดี๊ยนมองเป็นจังหวะที่ต้องขบคิดให้ดีเป็นพิเศษก่อนเคาะขวารัวๆ เพราะวันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 34 เท่าแล้วนั่นเอง จึงน่าจะเหลือแก๊ปให้วิ่งอีกไม่มากนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวอาจใช้ไม่ได้กับ WORK หลังหุ้นบวกต่อเนื่อง 3 วันติด จนล่าสุดขึ้นมายืนเทรดที่ระดับ P/E 58 เท่า โดยราคาหุ้นในกระดานยืนปิดที่ 85.25 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่า 950 ล้านบาท “โมนิก้า” อาจมองเป็นจุดเสี่ยงสำหรับการลงทุนในวันนี้ แต่บรรดาขาปั่นน่องเหล็กอาจไม่คิดเช่นนั้น จึงต้องปล่อยให้บรรดาแมงเม่าตัดสินใจกันเอาเองจ้า!

*เหมือนกับกรณีของ TSI กระชากขึ้นมาปิดที่ 0.77 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 18.50% ด้วยมูลค่า 118 ล้านบาท มันเป็นเรื่องของกระแสเก็งกำไรล้วนๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากจากที่เป็นอยู่ บวกกับคลายกังวลเรื่องการจ่ายสินไหมทดแทนมูลค่า 3,500 ล้านบาทให้กับห้างเซ็นทรัลเวิล์ด แต่เอาเข้าจริงตัวบริษัทกลับแบกรับภาระดังกล่าวแค่ 1.75 ล้านบาท จึงจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบกันไงล่ะค่ะ