กลุ่มส่งออกฯมาตามนัด SVI รับเต็ม บาทอ่อนใกล้ 34 บ./ดอลล์ Q1 มีพลิกกำไร
หุ้นในกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นในการซื้อขาย โดยได้รับผลดีจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้แตะระดับ 34 บาทต่อดอลล่าร์ นำโดย SVI ที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด และมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด คาดสามารถพลิกทำกำไรได้ตั้งแต่ไตรมาสแรก ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นในกลุ่มส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายรอบเช้า (8 พ.ค.) หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้แตะระดับ 34 บาทต่อดอลล่าร์ (ล่าสุด ณ เวลา 14.13 น.อยู่ที่ 33.50 บาทต่อดอลล่าร์) นำโดยบริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI อยู่ที่ 4.98 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 3.32% มูลค่าซื้อขายที่ 98.70 ล้านบาท
บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA อยู่ที่ 44.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.56% มูลค่าซื้อขายที่ 32.73 ล้านบาท และบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE อยู่ที่ 53.75 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.94% มูลค่าซื้อขายที่ 18.42 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.56%
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 พ.ค.) แนะนำให้นักลงทุนปรับพอร์ต ลดความเสี่ยงด้วยการถือเงินสดมากขึ้น และรอจังหวะตลาดในระยะถัดไปก่อน ขณะที่หุ้นเทรดดิ้งสั้น แนะนำกลุ่มส่งออกเน้นอิเล็กทรอนิกส์ KCE, HANA และ SVI
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ระบุในบทวิเคราะห์ช่วงบ่าย (8 พ.ค.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นเล่นกับหุ้นส่งออก อิงเทรนเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ (HANA, KCE, SVI และ VNG)
บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (8 พ.ค.) แนะนำซื้อ SVI มูลค่าเหมาะสม 5.70 บาท คาดผลประกอบการพลิกกลับมาเป็นกำไรตั้งแต่ไตรมาส 1/58 (คาดประกาศวันที่ 13 พ.ค.) เทียบกับการขาดทุน 1.2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/57 หลังประสบเหตุเพลิงไหม้ โดย SVI สามารถดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรในโรงงานใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีกำลังการผลิตใหม่เข้ามาทดแทนส่วนเดิมที่ถูกเพลิงไหม้ได้ราวครึ่งหนึ่ง
ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาทเป็นบวกต่อ SVI ซึ่งมีโครงสร้างยอดขายเป็นสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ 100% ขณะที่ฝั่งต้นทุนอยู่ในรูปดอลล่าร์สหรัฐฯ 80% จากการทำ Sensitivity analysis พบว่าการอ่อนค่าของเงินบาททุก 1 บาท จะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit margin) ของ SVI เพิ่มขึ้นราว 2%